- JR มีรายได้เฉพาะค่าโดยสารรถไฟกว่า 4.31 ล้านล้านเยน
- สถานีรถไฟเต็มไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน
- เป็นส่วนหนึ่งในการท่องเที่ยวของพวกเราที่ขาดไม่ได้
JR มีวิธีปั้นองค์กรอย่างไรกันแน่?
Privatization
ทศวรรษ 1970s การรถไฟแห่งประเทศญี่ปุ่น (Japanese National Railways – JNR) เป็นหนี้สะสมมากถึง 250,000 ล้านเยน ทางรอดคือการ “แปรรูปรัฐวิสาหกิจ” โอนกิจการของรัฐให้เป็นเอกชน (Privatization) ใช้เวลาเตรียมการราว 10 ปีจนแล้วเสร็จในปี 1987
ผลลัพธ์คือ Japan Railways (JR) แตกออกเป็น 6 กลุ่มบริษัทใหญ่แบ่งตามภูมิภาค ได้แก่ JR Hokkaido / JR East / JR Central / JR West / JR Shikoku / JR Kyushu
เมื่อเอกชนเข้ามาบริหาร เชี่ยวชาญในแต่ละภูมิภาค จึงดำเนินงานได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพขึ้น นี่คือการย้อนกลับมาติดกระดุมเม็ดแรกที่ถูกต้อง
(Privatization รถไฟในญี่ปุ่น ยังเป็นเทรนด์ที่เกิดขึ้นสอดคล้องกับกระแสโลกยุคนั้น เช่น Privatization รถไฟที่อังกฤษ เกิดขึ้นยุค 1990s)
TOD
“ขนส่งมวลชน…ทำยังไงก็ไม่กำไร” โดยเฉพาะถ้ามันครอบคลุมทั่วประเทศ ซึ่งกินพื้นที่ชนบทความหนาแน่นต่ำ (ไม่ใช่แค่เฉพาะเมืองใหญ่)
นี่คือสิ่งที่ JR รู้ดีมาแต่แรก จึงได้ริเริ่มแผนการทำพาณิชยกรรมขนาดใหญ่ที่เรียกว่า “TOD” (Transit-Oriented Development) หรือ การพัฒนาความเจริญรอบสถานีรถไฟ
ซึ่งมาในรูปแบบ Mixed-Use Development โปรเจคท์ขนาดใหญ่รวมทุกความเจริญไว้ในที่เดียวกัน เช่น ขนส่งมวลชนทุกรูปแบบ / ออฟฟิศ / โรงแรม / คอนโด / ห้างสรรพสินค้า / พิพิธภัณฑ์ / แหล่งท่องเที่ยว / สวนสาธารณะ
สถานีที่ได้รับการทำ TOD จะกลายเป็นศูนย์กลางใหญ่(และใหม่) ของเมือง สร้างรายได้มหาศาล สถานีลักษณะนี้กระจายตัวอยู่ทั่วประเทศ เช่น Osaka Station / Nagoya Station / Hakata Station / Shinjuku Station / Tokyo Station
ความเจริญของ TOD สร้างศูนย์กลางใหม่ของย่าน เมื่อเขยิบออกไปรอบๆ ในสเกลเล็กลงมา ยังเกิดย่านที่เป็น “ถนนช็อปปิ้งคนเดิน” รอบสถานีรถไฟอีกชั้นหนึ่ง ทั้งที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ และ JR ไปลงทุนสร้างไว้เอง
Land Development
JR ไม่ได้มีรายได้หลักจากค่าโดยสารรถไฟ เพราะคิดเป็น 10-20% เท่านั้น ขณะที่รายได้จาก “อสังหาริมทรัพย์” มากกว่าหลายเท่า
เพราะมาจากการพัฒนา “โครงการจัดสรรที่ดิน” ทั่วประเทศ ซึ่งเกิดขึ้นรอบนอกเมืองใหญ่ หรือ ตามย่านแหล่งท่องเที่ยวในชนบท เช่น Den-en Chofu ย่านหมู่บ้านจัดสรรหรูชานเมืองโตเกียว
Image Cr. bit.ly/3mQvx7Y
- JR East ทำสกีรีสอร์ต ติดกับสถานีรถไฟชินคันเซ็น เพียง 1 ชม.จากโตเกียว มีลานสกี / ออนเซ็น / ร้านค้าและผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น / ห้าง / รีสอร์ต / สถานีรถไฟ ดึงดูดให้ผู้คนในเมืองใหญ่ละแวกใกล้เคียงมาเยือน
- JR Kyushu ดึงจุดแข็งด้านโลเคชั่นของเกาะคิวชูที่อุดมไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ จึงสร้างรถไฟแนวท่องเที่ยว เช่น จ้างดีไซเนอร์มาตกแต่งรถไฟให้น่าดึงดูด กลายเป็น “Design & Story Train” (D&S Train) ดึงดูดนักท่องเที่ยวได้มากมาย
Image Cr. bit.ly/3FGkB5o
หรือแม้แต่การสร้าง “กิมมิค” เล็กๆ น้อยๆ ที่ใช้ต้นทุนน้อยแต่ได้ผล เช่น JR West สร้างมาสคอตแมว “Tama-chan” ให้แก่สถานีรถไฟเล็กๆ Kishi Station จนประสบความสำเร็จมีนักท่องเที่ยวมาเยือนจากทั่วประเทศ ส่งผลให้เศรษฐกิจท้องถิ่นดีขึ้น
Cost Structure
ภาครัฐสร้างกลไกและกฎหมายบางอย่างที่ยับยั้งไม่ให้ JR และบริษัทเดินรถไฟอื่นๆ “ขึ้นค่าโดยสารรถไฟ” ได้ตามอำเภอใจ เพราะจะกระทบต่อค่าครองชีพของประชาชน (ค่าโดยสารรถไฟในโตเกียวไม่ได้ขึ้นมาเป็นทศวรรษแล้ว)
ตัวอย่างเช่น โดยเฉลี่ย ค่าโดยสารรถไฟในโตเกียว/เที่ยว คิดเป็น 25% ของค่าแรงขั้นต่ำ/ชม. เท่านั้น
JR จึงหันไปสร้าง “ประสิทธิภาพ” และบริการอันเป็นเลิศแทน นี่เป็นอีกเหตุผลที่ทำให้ผู้คนยังเลือกเดินทางด้วยรถไฟที่สะดวกสบาย ราคาเป็นธรรม และเมื่อคนมาใช้ชีวิตรอบสถานี ก็เกิดการจับจ่ายใช้สอย JR จึงยังรักษาช่องทางรายได้หลักนี้ได้อยู่
ประสิทธิภาพยังรวมถึง “นวัตกรรม” ที่เพิ่มความสะดวกสบายให้แก่ผู้โดยสาร เช่น นวัตกรรมบัตร IC Card (ภายใต้แบรนด์ Suica) บัตรเดียวใช้แตะขึ้นรถไฟสายต่างๆ ซื้อของร้านสะดวกซื้อ และร้านค้าอีกเพียบ อำนวยความสะดวกผู้คน ซึ่ง JR ยังได้เก็บ “ข้อมูล” มหาศาลของลูกค้าเช่นกันเพื่อนำมาปรับปรุงบริการให้ดียิ่งขึ้น
Image Cr. bit.ly/3DCbu44
อีกด้านหนึ่ง JR ควบคุมต้นทุนด้วยการ “ยกเลิกเส้นทางรถไฟที่ไม่ทำกำไร” ซึ่งมักอยู่ตามชนบทต่างจังหวัด
- เส้นทางดังกล่าวกว่า 2,546 กม. ถูกยกเลิกไปแล้ว
- และอีกกว่า 2,200 กม. กำลังถูกโอนให้รัฐบาลท้องถิ่นรับช่วงดูแลต่อ (แม้ขาดทุน แต่จำเป็นต้องมีเพราะเป็น “ขนส่งสาธารณะ”)
ทั้งนี้ การยกเลิกต้องขออนุญาตจากท้องถิ่นและการมีส่วนร่วมของภาคประชาชนเสียก่อน
ปรับตัวตามยุคสมัย
เราจะเห็นว่ามีการ “ปรับตัว” ตามยุคสมัยอย่างแท้จริง
- จาก JNR สู่ JR
- จากสถานีรถไฟที่เป็นแค่ขนส่งมวลชน กลายเป็น TOD ศูนย์กลางใหม่ของเมืองที่มีทุกอย่าง
- จากบริเวณที่ความหนาแน่นต่ำ สร้างให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวใหม่ดึงดูดผู้คน
- เมื่อยุคดิจิตอลมาถึง ก็รีบออกบัตร IC Card สะดวกสบาย
การปรับตัวไปตามสภาพการณ์และพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป เป็นปัจจัยที่ทำให้ JR เป็นมากกว่าแค่ขนส่งมวลชนใช้เดินทาง แต่เป็นส่วนหนึ่งในการใช้ชีวิตและท่องเที่ยวของผู้คนไปแล้ว
.
ทำ “แบบประเมินอาชีพ” จาก CareerVisa เพื่อค้นหาอาชีพที่ใช่ งานที่ชอบ…จะได้มีความสุขในการทำงานทุกๆ วัน >>> https://www.careervisaassessment.com/five-shades-assessment-th/
ยังไม่รู้จะหางานอะไรดี? รีบเข้าไปที่ >>> www.careervisaassessment.com
ทำ Resume แบบมืออาชีพได้ง่ายๆ ที่ >>> https://myrightcareer.net/
อ้างอิง
- https://www.statista.com/statistics/1053252/japan-revenue-passenger-railway-transport-jr/
- https://www.jreast.co.jp/investor/factsheet/pdf/factsheet_02.pdf
- https://www.japantimes.co.jp/opinion/2017/04/04/editorials/privatization-jnr-30-years/
- https://en.wikipedia.org/wiki/Japan_Railways_Group
- https://issuu.com/jessyyoungyang/docs/jessy_yang_writing_sample_tod_case_study