Conjunction Fallacy: ทำไมคนเรามักตัดสินใจผิดพลาด?

Conjunction Fallacy: ทำไมคนเรามักตัดสินใจผิดพลาด?

Story: Emma เป็นผู้หญิงโสดวัย 32 ปี เธอเป็นผู้หญิงฉลาด มั่นใจและพูดจาตรงไปตรงมา จบการทางด้านรัฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยชั้นนำในสหรัฐอเมริกา ตั้งแต่ยังเป็นนักศึกษา เธอสนใจเรื่องความเหลื่อมล้ำทางสังคม ปัญหาเชิงโครงสร้าง และร่วมเดินขบวนเรียกร้องสิทธิสตรีอยู่หลายครั้ง

Question: ปัจจุบัน Emma ทำงานอะไรอยู่?

ถ้ามีแค่ตัวเลือก A และ B คุณคิดว่าข้อไหนมีโอกาสถูกมากกว่ากัน?

A: Emma เป็นอาจารย์มหาวิทยาลัย

B: Emma เป็นอาจารย์มหาวิทยาลัย และ เป็นแกนนำด้านสิทธิสตรี (Feminist movement)

เมื่อเรารู้ข้อมูลมาขนาดนี้ คนส่วนใหญ่มักเลือกตอบข้อ B

พร้อมติดกับดัก Conjunction Fallacy ทันที!!

Conjunction Fallacy คืออะไร? 

Conjunction Fallacy คือ การทึกทักไปเองว่า…เหตุการณ์เฉพาะเจาะจง มีโอกาสเกิดมากกว่า เหตุการณ์ที่ไม่เฉพาะเจาะจง จนนำไปสู่ความเข้าใจที่บิดเบือนหรือการตัดสินใจที่ผิดพลาด

หรือถ้าเข้าใจง่ายๆ มันเป็นการทึกทักไปเองว่า…ข้อมูลที่ละเอียดมากๆ มีโอกาสเกิดมากกว่า ข้อมูลพื้นๆ ทั่วไป

จากตัวอย่าง Emma เมื่อกี้ เมื่อเราลองนั่งลง ทำจิตใจให้สงบ และใช้เวลาขบคิด

จะพบว่าตัวเลือก A ประกอบเพียงอาชีพเดียว (อาจารย์)

ขณะที่ตัวเลือก B จะต้องทำมากถึง 2 บทบาทในเวลาเดียวกัน (อาจารย์ + แกนนำ)

ตามหลักการแล้ว จำนวนคนที่เป็น A น่าจะมากกว่า จำนวน B

และโอกาสที่จะเกิด A จึงมากกว่า B ตามไปด้วยนั่นเอง

สังเกตไหมว่า ถ้า B ถูก…ยังไง A ก็ต้องถูกตามด้วย

แต่ถ้า A ถูก…B อาจจะถูกหรือผิดก็ได้ไม่มีใครรู้

กลไกที่อยู่เบื้องหลัง?

ปี 1982 ผู้นำเสนอทฤษฎี Conjunction Fallacy อย่างคุณ Daniel Kahnerman และ Amos Tversky กล่าวว่า

เพราะสมองมนุษย์เราแบ่งการคิดออกเป็น 2 แบบ เขาใช้คำเรียกง่ายๆ ว่า

1. สมองคิดเร็ว – ใช้อารมณ์ / เกิดขึ้นอัตโนมัติ / สัญชาตญาณ

2. สมองคิดช้า – ใช้เหตุผล / เกิดการขบคิดวิเคราะห์ / จะไม่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ

โดยสมองคิดเร็ว คือตัวการที่กระโดดเข้าหา Conjunction Fallacy ก่อนใครเพื่อน และติดกับดักในที่สุด

จากตัวอย่าง Emma จะเห็นว่าพอเราเปลี่ยนมาใช้ “ตรรกะเหตุผล” คิดวิเคราะห์ สุดท้ายจะหันมาเลือกคำตอบ A ซึ่งมีโอกาสถูกต้องมากกว่า

แต่การตัดสินใจหลายครั้งของมนุษย์ในทุกเรื่อง ทั้งการลงทุนในหุ้น / การเลือกอาชีพที่ใช่ งานที่ชอบ / การออกกำลังกาย / การตัดสินใจต่างๆ ที่นำไปสู่ความสุข

ล้วนแต่ถูกอิทธิพลของ “ข้อมูล ณ เวลานั้น” มาโน้มน้าวให้เราคล้อยตาม กระตุ้นสมองคิดเร็วให้ทำงานและเข้าครอบงำสมองคิดช้า จนนำไปสู่การตัดสินใจที่ผิดพลาด

หรือภาษาบ้านๆ อาจเรียกว่าเรา “ด่วนสรุป” ไปก่อนเอง หรือใช้ “อารมณ์” อยู่เหนือเหตุผลนั่นเอง

Conjunction Fallacy รอบตัวเรา?

Conjunction Fallacy เกิดขึ้นในชีวิตรอบตัวเราทุกวัน และผู้นำองค์กรหลายคนก็มักเผลอพลั้งตกหลุมพรางอยู่บ่อยๆ 

เช่น การพิจารณาลงทุนในหุ้น เมื่องบการเงินบริษัทในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมาเป็นบวก พร้อมกับผู้บริหารออกมาประกาศวิสัยทัศน์ชัดเจน อาจทำเราคล้อยตามเกิดสนใจในหุ้นบริษัท ณ เวลานั้น จนไม่ได้วิเคราะห์ผลประกอบการบริษัทย้อนหลังหลายปี หรือ มองข้ามปัจจัยอื่นนอกเหนือจากตัวเลข

คุณ Daniel Kahnerman  ยังเสริมด้วยว่า คนเรามักถูกโฉลกกับ Harmonious Story ความสอดคล้องกลมกลืนกันของเรื่องราว…ที่ปะติดปะต่อกันได้อย่างไหลลื่น แถมฟังดูมีเหตุมีผล 

หรือพูดง่ายๆ ว่าคนเรามักถูกจริตชอบ “เรื่องราว มากกว่า สถิติ” จนบางครั้งมองข้ามตรรกะเหตุผลในเชิงสถิติไปเลย

ในแง่ของการโน้มน้าวใจ ผ่านเรื่องราวหรือโฆษณาเชิญชวนต่างๆ ที่ใส่ข้อมูลละเอียดยิบเพิ่มเข้ามา ขอให้ระวังไว้ ดึงสติตัวเองให้กลับมาใช้ “สมองคิดช้า” ขบคิดวิเคราะห์ ก่อนตัดสินใจอีกทีหนึ่ง

.

เมื่อพูดถึงสมองคิดช้า ก็ขอให้เข้าไปทำ “แบบประเมินอาชีพ” จาก CareerVisa ค่อยๆ คิด ค่อยๆ ทำ…เพื่อค้นหาอาชีพที่ใช่ งานที่ชอบ จะได้ทำงานอย่างมีความสุขในทุกๆ วัน >>> https://www.careervisaassessment.com/five-shades-assessment-th/

ยังไม่รู้จะหางานอะไรดี? รีบเข้าไปที่ >>> www.careervisaassessment.com

ทำ Resume แบบมืออาชีพได้ง่ายๆ ที่ >>> https://myrightcareer.net/

อ้างอิง