The Black Swan: สิ่งที่ไม่เคยเจอ… ไม่ได้แปลว่าจะไม่เจอ

The Black Swan: สิ่งที่ไม่เคยเจอ… ไม่ได้แปลว่าจะไม่เจอ

ปี 1973 –  วิกฤติน้ำมัน 

ปี 2001 – ก่อการร้าย 9/11 

ปี 2011 – สึนามิญี่ปุ่น 

ปี 2020 – โควิด-19 

เหตุการณ์ประวัติศาสตร์เหล่านี้ ไม่มีผู้เชี่ยวชาญคนไหนคาดคิดมาก่อน 

สิ่งที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นแต่ดันเกิดขึ้นแบบนี้เรียกว่าทฤษฎี Black Swan หรือ “หงส์ดำ”

ที่มาของชื่อมาจากยุคสมัยก่อน มนุษย์รู้จักแต่หงส์สีขาว และเชื่อมาตลอดว่า ‘หงส์มีแต่สีขาวเท่านั้น’

แต่สุดท้ายมาค้นพบ “หงส์ดำ” ที่ประเทศออสเตรเลีย ในปี 1697 โดยคุณ Willem de Vlamingh 

หงส์ดำจึงกลายเป็นคำแทนของ “สิ่งที่เหมือนจะเป็นไปไม่ได้” (แต่เป็นไปแล้ว)

ปัจจุบันเราใช้คำว่า Black Swan เปรียบเปรยถึงเรื่องที่ไม่คาดฝันว่าจะเกิด…แต่ดันเกิดขึ้นและสร้างผลกระทบใหญ่หลวง ซึ่งเป็นได้ทุกเรื่องทั้งเศรษฐกิจ สังคม การเงิน การเมือง ฯลฯ

Positive and Negative

อย่างไรก็ตาม Black Swan มีทั้งด้านบวก และ ด้านลบ ขึ้นอยู่กับว่าเราเตรียมตัวหรือได้รับผลกระทบมากน้อยแค่ไหน

ด้านบวก เช่น 

  • การเติบโตแบบก้าวกระโดดของ ZOOM แพลตฟอร์มประชุมทางไกล
  • การเติบโตของ Delivery Service ที่เปลี่ยนพฤติกรรมการซื้อของคน

ด้านลบ เช่น 

  • อัตราการว่างงานพุ่งสูงเพราะพิษโควิด-19
  • สายการบินล้มละลายเพราะพิษโควิด-19

ข้อจำกัดของมนุษย์

แม้เราจะได้บทเรียนจากประวัติศาสตร์ แต่มนุษย์ก็ยังคงตกหลุมพราง Black Swan ด้านลบอยู่บ่อยๆ

ที่เป็นเช่นนี้เพราะ สมองมนุษย์วิวัฒนาการมาท่ามกลางทุ่งหญ้าสะวันนา เราใช้ชีวิตแบบล่าสัตว์หาของป่า สภาพแวดล้อมเราค่อนข้างจะคงที่ สามารถคาดการณ์เรื่องต่างๆ ได้หมด ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงอย่างเนิบช้าตามธรรมชาติ…มนุษย์เราใช้ชีวิตแบบนี้อยู่นับแสนๆ ปี 

แต่โลกทุกวันนี้แตกต่างจากเดิมสิ้นเชิง ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไปเร็วมาก เหตุการณ์ผิดปกติบางอย่างอาจทำให้ตลาดหุ้นสูญเสียมูลค่านับล้านล้านบาทได้ภายในไม่กี่วินาที สมองมนุษย์ไม่อาจประมวลผลหรือคาดการณ์ได้อย่างแม่นยำอีกต่อไป

“เราอยู่ในเมือง แต่ สมองเรายังอยู่ในป่า”

Black Swan จึงมีแต่จะเกิดถี่ขึ้น คาดการณ์ได้ยากขึ้น และเมื่อมันเกิดแล้ว มักทำลายแผนการเดิมที่เราวางไว้ทั้งหมด

นอกจากนี้ “การรู้” มี 3 แบบ

  • เรื่องที่เรารู้ว่า..เรารู้ (known facts)
  • เรื่องที่เรารู้ว่า..เราไม่รู้ (known unknowns)
  • เรื่องที่เราไม่รู้ว่า..เราไม่รู้ (unknown unknowns)

Black Swan มักเกิดจากการรู้แบบที่ 3 (unknown unknowns) และโควิด-19 คือตัวอย่างที่ดีที่สุดตอนนี้

เราได้เรียนรู้อะไรจาก Black Swan?

ขอให้คิดเสมอว่าทุกอย่างเป็นไปได้…แม้โอกาสจะน้อยมากก็ตาม (Above-Zero Probability)

  • 10 กว่าปีที่แล้ว ไม่มีใครคาดคิดว่า มนุษย์กว่า 2.7 พันล้านคนจะใช้ Facebook 
  • ภายใน 1 ชั่วอายุคน รายได้เฉลี่ย/หัว ของชาวจีนเพิ่มขึ้นกว่า 65 เท่า! กลายเป็นชาติมหาอำนาจที่จะมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่กว่าสหรัฐอเมริกาภายในปี 2028
  • Lehman Brothers วาณิชธนกิจระดับโลกล้มละลายจนส่งผลกระทบถึงเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกา
  • หรือ Tesla บริษัทรถยนต์ไฟฟ้าที่พึ่งก่อตั้งมา 18 ปี จะมีมูลค่าแซงหน้า Toyota ที่ก่อตั้งมา 84 ปีและทำรถยนต์ครบวงจร

เราควรระลึกถึง Black Swan อยู่เสมอ ใช้มันเป็นตัวคอย “เตือนสติ” ให้ตั้งรับภัยจากด้านลบของมัน: บริหารธุรกิจอย่างรอบคอบ / ทุกอย่างควรต้องมี Plan B / มองโลกในแง่ร้ายไว้บ้าง / เป็นหนี้ให้น้อย / ลงทุนแบบ Conservative ไม่เกินตัว

ขณะเดียวกัน ก็เตรียมพร้อมฉวยโอกาสจากด้านบวกที่จะเกิดขึ้น..

.

ซึ่งด้านบวกแรก เริ่มง่ายๆ จากการเข้าไปทำ “แบบประเมินอาชีพฟรี” จาก CareerVisa… ไม่แน่นะ คุณอาจค้นพบอาชีพที่ใช่ เป็น Black Swan หงส์ดำท่ามกลางหงส์ขาว ในภาวะวิกฤติแบบนี้ก็ได้!! >>> https://www.careervisaassessment.com/five-shades-assessment-th/

อ้างอิง