Appearance Illusion: เครื่องสำอางอาจไม่ได้ทำให้นางแบบดูดี

Appearance Illusion: เครื่องสำอางอาจไม่ได้ทำให้นางแบบดูดี
  • นางแบบใช้เครื่องสำอางจนสวย
  • นักบาสเหาะไปดั๊งค์ได้เพราะฝึกซ้อมหนัก
  • เก่ง ฉลาด มากความสามารถ เพราะจบจาก Harvard

เหตุผลเหล่านี้เป็นที่ยอมรับกันในโลกกระแสหลัก แต่ก็ระวังให้ดี เพราะมันไม่จริงเสมอไป บางครั้งมันนำไปสู่ความเข้าใจผิดที่เรียกว่า “Appearance Illusion”

Appearance Illusion นางแบบอาจไม่ได้สวยเพราะเครื่องสำอาง

Appearance Illusion คือ ความเข้าใจผิดที่มองว่า “คุณสมบัติ คือ ผลลัพธ์” 

เป็นความสับสนว่า…อะไรคือสาเหตุของผลลัพธ์ที่เห็นกันแน่?

(สับสนว่า “ตัวแปร A” ทำให้เกิด “ผลลัพธ์ B”…ทั้งที่อาจไม่จริง) 

เช่น นางแบบใช้เครื่องสำอางจนสวยเจิดจรัส

นี่คืออีกหนึ่ง “อคติปราบเซียน” ที่อยู่รอบตัวเรา เพราะมันมักจะดู “สมเหตุสมผล” จากเปลือกนอก แต่พอวิเคราะห์ดูดีๆ อาจไม่ใช่อย่างนั้น

Appearance Illusion ในวงการถ่ายแบบ

ในวงการนางแบบมืออาชีพ สิ่งที่เป็นภาพจำมาคู่กันเลยคือ การใช้เครื่องสำอางและแบรนด์แฟชั่นต่างๆ เพื่อให้ตัวเองดูสวย

  • นางแบบคนนั้นใช้เครื่องสำอางยี่ห้อนี้…จึงดูดี
  • นางแบบคนโน้นใส่เสื้อผ้าแบรนด์โน้น…จึงดูดี

ใช่…ทั้งเครื่องสำอาง / เสื้อผ้า / การดูแลตัวเอง ล้วนทำให้คนๆ หนึ่งดูดีขึ้นอยู่แล้ว แต่การที่คุณจะฝ่าฟันเข้าวงการจนเป็นถึงระดับ “นางแบบมืออาชีพ” ได้นั้น…ยากที่จะปฏิเสธว่าเพราะ นางแบบคนนั้นมักมี “พื้นฐานร่างกาย” ที่ดีมาตั้งแต่แรกอยู่แล้ว 

มาจากพันธุกรรมในตัวเอง ได้ยีนส์เด่นมาเต็มๆ “เกิดมาหน้าตาดี” อยู่แล้ว สูงมาแต่เด็ก / ขาเรียวยาว / ใบหน้าได้รูป / ผิวพรรณเปล่งปลั่ง / ระบบเผาผลาญดีทำให้ไม่อ้วน 

พื้นฐานร่างกายที่ดีเหล่านี้คือด่านแรกที่จะถูกคัดเลือกให้เข้าวงการ เพื่อไปฝึกทักษะนางแบบต่อไป…การแต่งหน้า / เสื้อผ้า / เครื่องสำอางบำรุง เป็นแค่เรื่องเสริม

Appearance Illusion ในวงการกีฬา

หนึ่งในกีฬาที่ความแตกต่างด้านสมรรถนะร่างกายสามารถตัดสินแพ้ชนะได้ชัดเจนมากคือ บาสเกตบอล

นักบาสสามารถกระโดดได้สูงและไกล (ราวกับ ‘เหาะ’) ไปดั๊งค์ได้ อาจไม่ใช่เพราะฝึกหนักอย่างเดียว แต่ตัวแปรที่สำคัญยิ่งกว่าคือ เพราะพวกเขามี “สรีระร่างกาย” ที่เหมาะกับกีฬาบาสอยู่แล้ว

  • สูง 2 เมตร 
  • ขายาว
  • กระดูกขาแข็งแรง 

เรื่องนี้สะท้อนไปถึงพันธุกรรม โดยชาติพันธุ์ “คนดำ” จะมีความแข็งแกร่งกำยำด้านร่างกายมากกว่าชาติพันธุ์อื่น แม้นักกีฬาบาสชาวเอเชียที่ลอกเลียนแบบโปรแกรมการฝึกทั้งหมด ก็อาจไม่สามารถเหาะเหินเดินอากาศแบบนักบาสคนดำได้ นี่คือ “ข้อจำกัด” ทางด้านร่างกายนั่นเอง

ไม่แปลกเลยที่นักกีฬาบาสเกตบอลในตำนานตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบันส่วนใหญ่เป็นคนดำทั้งสิ้น

จากจำนวนนักกีฬา NBA ทั้งหมด

  • 74.2% เป็นคนดำ
  • 16.9% เป็นคนขาว
  • 8.9% ที่เหลือรวมกัน

Appearance Illusion ในการศึกษา

มหาวิทยาลัยชั้นนำต่างๆ เช่น Harvard University 

  • เป็นสถานศึกษาอันยอดเยี่ยมที่ผลิตนักศึกษาเก่งๆ? 
  • หรือ เพราะมหาวิทยาลัยคัดเลือกแต่คนเก่งๆ แต่แรกถึงจะผ่านเข้าไปเรียนได้?

เมื่อเปิดใจคิดดูดีๆ จะพบว่าคำตอบสามารถเป็นได้ทั้งสองแบบ เพียงแต่โลกกระแสหลักมักยอมรับแต่คำตอบแรกเท่านั้น

Harvard อาจไม่ได้สอนดีทำให้เราเก่งฉลาดขึ้นขนาดนั้น แต่นักศึกษาที่กว่าจะผ่านเข้าไปเรียนได้ล้วนเป็น “คนเก่งแถวหน้าของสังคม” อยู่ก่อนแล้ว 

Bill Gates และ Mark Zuckerberg ล้วนเคยเรียนที่ Harvard University แต่ “ดรอป” เรียนกลางคันเพื่อไปสานฝันธุรกิจของตัวเองที่กำลังอยู่ในช่วงตั้งไข่ 

  • ทั้งคู่ ได้แรงบันดาลใจและความรู้จาก Harvard จนทำธุรกิจสำเร็จ? 
  • หรือ เพราะทั้งคู่เป็นอัจฉริยะอยู่แล้ว แม้เรียนที่อื่นก็ประสบความสำเร็จอยู่ดี?

Appearance Illusion กับมุมมองความสุข

เมื่อถามเหล่าปรมาจารย์ด้านการคิดบวก (ที่มักเป็นผู้เขียนหนังสือพัฒนาตัวเอง) ถึงเคล็ดลับการมองโลก คำตอบที่ได้คือ 

เวลามองน้ำที่มีอยู่ครึ่งหนึ่งในแก้ว ให้มองว่ามีน้ำ “ตั้ง” ครึ่งแก้ว…ไม่ใช่ “แค่” ครึ่งแก้ว

อุปนิสัยร่าเริงและการมองโลกในแง่บวก อาจไม่ได้มาจากทัศนคติที่ผ่านการฝึกฝน แต่มาจากพันธุกรรมในร่างกายซึ่งเป็นตัว “กำหนด” อุปนิสัยของเค้าแต่แรกต่างหาก!!

Yuval Noah Harari ผู้เขียนหนังสือก้องโลก Sapiens: A Brief History of Humankind เผยว่า ถ้าจะอธิบายความสุขในทางชีววิทยา มนุษย์เราเกิดมาพร้อมเคมีในร่างกายที่กำหนดระดับความสุข-ความเครียดของเราตั้งแต่เกิดจนตาย 

สมมติ ถ้ามีคะแนนระหว่าง 1-10 (10 = คิดบวกที่สุด)

  • คนคิดบวก อาจอยู่ระหว่าง 6-9
  • คนคิดลบ อาจอยู่ระหว่าง 3-7

หมายความว่า ต่อให้อยู่เฉยๆ คนคิดบวกก็มักจะคิดบวกอยู่แล้ว แย่ที่สุดคือ 6

ขณะที่คนคิดลบ แย่ที่สุดเหลือแค่ 3 ถ้าอยากคิดบวกต้อง “ฝึกจิต” อย่างหนักเพื่อจะไปสิ้นสุดแค่ที่ 7

วิธีป้องกัน Appearance Illusion?

อย่าพึ่งรีบด่วนสรุป อย่าพึ่งรีบเชื่อคำโฆษณา หมั่นตั้งคำถาม(ด้วยความสงสัย) อย่าง “จริงเหรอ?” / “ใช่เหรอ?” / “โม้รึเปล่าเนี่ย?”

“ปัจจุบันคือผลลัพธ์ของอดีต” ให้ลองทุ่มเวลาสืบค้นที่มาที่ไปว่ามี “ตัวแปรซ่อนเร้น” อะไรอีกบ้างที่ไม่ถูกเปิดเผย

คนเก่งที่จบ Harvard เติบโตมาอย่างไร / คบเพื่อนแบบไหน / อ่านหนังสือแนวไหน  งานอดิเรกคืออะไร…สิ่งเหล่านี้อาจหล่อหลอมให้เค้าเก่งได้ไม่แพ้การเรียนที่มหาวิทยาลัยเช่นกัน

การมีตรรกะการคิดแบบนี้ นอกจากจะช่วยไม่ให้ติดกับดัก Appearance Illusion แล้ว ยังช่วยให้เรามีตรรกะคิดที่ลุ่มลึกขึ้นกับเรื่องอื่นในชีวิตเช่นกัน

.

ทำ “แบบประเมินอาชีพ” จาก CareerVisa เพื่อค้นหาอาชีพที่ใช่ งานที่ชอบ…จะได้มีความสุขในการทำงานทุกๆ วัน >>> https://www.careervisaassessment.com/five-shades-assessment-th/

ยังไม่รู้จะหางานอะไรดี? รีบเข้าไปที่ >>> www.careervisaassessment.com

ทำ Resume แบบมืออาชีพได้ง่ายๆ ที่ >>> https://myrightcareer.net/

อ้างอิง