Advance Breathing: แค่หายใจให้เป็น ก็บอกลาความเครียดได้แล้ว

Advance Breathing: แค่หายใจให้เป็น ก็บอกลาความเครียดได้แล้ว
  • เฉลี่ยแล้ว คนเราหายใจเข้า-ออก มากถึง 25,000 ครั้ง/วัน

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการ “หายใจ” (Breathing) สำคัญต่อมนุษย์ทุกคนมาก แต่ขณะเดียวกัน กลับเป็นศาสตร์ที่ถูกประเมินค่าต่ำหรือแม้แต่ถูกเพิกเฉยจากแทบทุกวงการ

ทั้งๆ ที่เราทำมันอยู่ทุกๆ วินาที(ตั้งแต่เกิดจนตาย) และประโยชน์ของมันถ้าหายใจถูกวิธี จะช่วยร่างกายและจิตใจในทุกเรื่อง หนึ่งในนั้นคือ การบรรเทา “ความเครียด” ที่เกี่ยวข้องกับการทำงาน

คำถามคือ…แล้วเราควรหายใจอย่างไร?

การหายใจ 101

ก่อนอื่น เราต้องปูพื้นฐานเล็กน้อยเรื่องการหายใจ เช่น

  • การ “หายใจออก” สำคัญไม่แพ้หายใจเข้า
  • “คาร์บอนไดออกไซด์” สำคัญไม่แพ้ ออกซิเจนในร่างกาย
  • การหายใจทาง “จมูก” คือสิ่งที่ต้องทำในทุกกรณี
Men sitting at a table looking at a computer

Description automatically generated with low confidence

ขณะที่การหายใจทางปากคือข้อห้ามทุกประการ เพราะการหายใจทางปากจะทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำในร่างกายเพิ่มขึ้น 40% เมื่อเทียบกับหายใจทางจมูก และเราทราบดีว่าน้ำสำคัญต่อทุกระบบในร่างกาย

  • ขาดน้ำ…เลี้ยงสมองไม่พอ
  • ขาดน้ำ…เลี้ยงดวงตาไม่พอ
  • ขาดน้ำ…สารเคมีในร่างกายจะผิดปกติ เครียดง่ายขึ้น

เมื่อรู้แบบนี้แล้ว เราไปสำรวจ “Advance Breathing” เทคนิคการหายใจขั้นแอดวานซ์ ที่ประยุกต์ใช้กับการทำงานในชีวิตประจำวันได้ทันทีกัน

4-7-8

นี่คือวิธีที่ใช้ฝึกกันในหน่วยซีลสหรัฐอเมริกา (U.S. Navy SEALs) เวลาอยู่ในภาวะสงครามหรือทำภารกิจที่ชี้เป็นชี้ตาย เพื่อควบคุมสติและมีโฟกัสกับปัจจุบันตรงหน้าได้

ถ้าถูกพิสูจน์แล้วแม้แต่ในสถานการณ์ความเป็นความตาย ก็น่าจะใช้ได้ดีกับการทำงาน ที่น่าสนใจคือ วิธีการง่ายกว่าที่คิด

  • หายใจเข้าปกติทางจมูก
  • แต่หายใจออกปกติทาง “ปาก” โดยให้ทำ “ปากจู๋” 
  • เมื่อทำจนหมดลมหายใจ ปิดปากให้สนิท 
  • และหายใจเข้าทางจมูก “ช้าๆ เป็นเวลา 4 วินาที”
  • ก่อนจะ “อั้นไว้เป็นเวลา 7 วินาที”
  • สุดท้าย ให้หายใจออกปกติทางปาก โดยให้ทำ “ปากจู๋ เป็นเวลา 8 วินาที”

ทำซ้ำวนลูปเดิม ทั้งหมด 4 ครั้ง

1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8, 9, 10

นี่เป็นเทคนิคที่ขจัดความเครียด / ความกังวล / ความซึมเศร้าได้เป็นอย่างดี และช่วยให้เราโฟกัสอยู่กับปัจจุบันขณะ แถมช่วยขยายปอดของเราให้ใหญ่ขึ้นได้

เงื่อนไขคือ อาจต้องขอพื้นที่ส่วนตัวเล็กน้อยในการปฏิบัติ เพราะมีวิธีการดังนี้

  • นั่งขัดสมาธิ หลังตรง 
  • หายใจลึกๆ เข้าทางจมูกจนเต็มปอด
  • จากนั้นให้นับ 1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8, 9, 10 เร็วๆ วนไปซ้ำๆ เรื่อยๆ
  • ระหว่างที่นับตัวเลข เป็นการหายใจออกทางปากในเวลาเดียว
A person sitting on a bench

Description automatically generated with medium confidence
  • เมื่อนับถึงจุดหนึ่ง ลมหายใจจะเริ่มหมด…แต่ให้ “ฝืน” นับต่อไป ด้วยเสียงที่ “แผ่วเบา” เท่าที่มี
  • ฝืนนับต่อไป จนถึงลมหายใจสุดท้าย จนไม่ไหวแล้วต้องการหายใจ
  • ให้หายใจเข้าช้าๆ ลึกๆ ทางจมูกจนเต็มปอด
  • ทำซ้ำ 10-30 รอบ

(โดยปกติ คนทั่วไปจะหายใจออกพร้อมกับนับ 1-10 ได้ประมาณ 12-15 รอบ ก่อนไม่ไหวแล้วจนต้องหายใจ)

8 วินาที

Konno Seishi แพทย์สายตาขาวญี่ปุ่น ที่เชี่ยวชาญการรักษาสายตาสั้นให้กลับมาปกติแก่คนไข้มาแล้วนับไม่ถ้วน เผยว่าการนั่งทำงานหน้าจอคอมทั้งวันจนปวดเมื่อยตา เป็นปัญหาคลาสสิกของคนยุคใหม่ไปแล้ว และมีทีท่าว่าจะยิ่งเลวร้ายลงเพราะเทคโนโลยีที่มาแย่งเวลา ดึงดูดความสนใจ และดึงดูดดวงตาของเราในที่สุด

เขาแนะนำวิธีการที่เรียบง่าย…เรียบง่ายเสียจนนั่งหน้าคอมในออฟฟิศก็สามารถทำได้ตลอดโดยไม่มีใครรู้ วิธีการคือ

  • หายใจเข้าทางจมูกปกติ
  • หายใจออกทางปากโดยให้ “ติดต่อกันอย่างต่ำ 8 วินาที”

ถ้าเป็นไปได้ ให้ไปอยู่ในวิวที่เปิดโล่งสุดลูกหูลูกตา อาจเป็นริมกระจกในออฟฟิศตึกสูงแล้วมองออกไปไกลๆ ก็ได้ จะช่วยให้ผ่อนคลายมากขึ้น

A table with a computer on it

Description automatically generated with low confidence

และระหว่างที่หายใจออกนานๆ นี้ ดวงตาของเราอาจพยายามปิดลงบ้าง อย่าฝืน ให้กะพริบตาได้

โดยแนะนำให้ทำติดต่อกันราว 2-3 นาทีก็ถือว่าเพียงพอแล้ว ก่อนกลับไปทำงานใหม่ได้ (หรือจะนั่งทำหน้าคอมเนียนๆ ก็ได้)

4-4-4

หลังทานมื้อเที่ยง หลายๆ คนก็อยากให้กระเพาะย่อยอาหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อมีพลังงานกายและสมองไปใช้ช่วงบ่าย

นี่คือเทคนิคที่ช่วยย่อยอาหารได้เป็นอย่างดี เพราะมีการกลั้นหายใจให้ออกซิเจนไปเผาผลาญได้มากขึ้น วิธีการคือ

  • หายใจเข้าทางจมูก เป็นเวลา 4 วินาที
  • กลั้นหายใจไว้ 4 วินาที
  • หายใจออกทางจมูก เป็นเวลา 4 วินาที
  • ปล่อยค้างไว้ 4 วินาที (ไม่หายใจ)

ทำซ้ำทั้งหมด 6 รอบ หรือมากกว่าตามแต่สะดวก

ฮัมเพลง

เรื่องเหลือเชื่อคือ พบว่าการ “ฮัมเพลง” กลับเป็นเทคนิคที่ช่วยลดความเครียดได้ดีมากๆ (หายใจออกขณะฮัม) ปรับอารมณ์ให้เป็นบวก กระตุ้นสมองและความทรงจำ (เพลงมักผูกติดกับเหตุการณ์ในอดีต) และเพิ่มเสน่ห์ในตัวคุณ สอดคล้องกับการเข้าสังคมต่างๆ ได้เป็นอย่างดี (เช่น ฮัมเพลงที่โซนกาแฟในออฟฟิศ)

A person wearing glasses and headphones

Description automatically generated with medium confidence

เงื่อนไขคือ ก่อนฮัมเพลง ต้องหายใจเข้าทาง “จมูก” เท่านั้น และขณะฮัม ต้องหายใจออกทาง “จมูก” เช่นกัน

สมดุลของ 5.5

สุดท้ายแล้ว คงจะดีไม่น้อยถ้าเราหายใจถูกวิธีตั้งแต่ต้นและทำอยู่ “ตลอดเวลา” เพื่อป้องกันภาวะเครียดและอาการไม่ดีต่างๆ

และภาวะการหายใจที่สมดุลที่สุด เป็นธรรมขาติที่สุด และใครๆ ก็ทำได้ทันทีคือ

  • หายใจเข้าทางจมูก 5.5 วินาที
  • หายใจออกทางจมูก 5.5 วินาที (ไม่ต้องอั้น หายใจเข้าแล้วปล่อยมาเลย)
  • ถ้าหายใจเข้า-ออก คิดเป็น 1 เซ็ท…เราจะทำได้ประมาณ 5.5 เซ็ท/นาที
A person with long hair

Description automatically generated with medium confidence

ออกมาเป็นตัวเลขที่สวยงามลงตัวและสมดุลต่อร่างกายที่สุดแล้ว ช่วยควบคุมระบบในร่างกายทุกอย่าง เป้าหมายสูงสุดคือ หายใจได้แบบนี้โดยไม่รู้ตัว (Unconscious breathing) ไม่ต้องคอยนับในใจอีกต่อไป

ถ้าคุณเลือกได้เพียง 1 อย่าง ขอให้เลือกวิธีการหายใจแบบ 5.5 นี้ไปใช้(ได้ตลอดชีวิต!!)

เพียงลองนำเทคนิคการหายใจเหล่านี้ไปใช้ ฝึกวันละนิดวันละหน่อย เราจะพบว่ามันไมเพียงแต่ช่วยบรรเทาความเครียด / บำรุงสายตา / หรือหัวใจเต้นช้าลงเท่านั้น

แต่ยังช่วยปรับสมดุลในร่างกายทั้งหมด นำไปสู่การเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานและการใช้ชีวิตทุกๆ วันในที่สุด

.

ทำ “แบบประเมินอาชีพ” จาก CareerVisa เพื่อค้นหาอาชีพที่ใช่ งานที่ชอบ…จะได้มีความสุขในการทำงานทุกๆ วัน >>> https://www.careervisaassessment.com/five-shades-assessment-th/

ยังไม่รู้จะหางานอะไรดี? รีบเข้าไปที่ >>> www.careervisaassessment.com

ทำ Resume แบบมืออาชีพได้ง่ายๆ ที่ >>> https://myrightcareer.net/

อ้างอิง