- ทำงานหนักแค่ไหน ก็ไม่มีปัญญาซื้อบ้านซักหลัง
- สู้เต็มที่แล้ว แต่โลกเปลี่ยนเร็วเกินจนตามไม่ทัน
- วิกฤติซ้ำซาก ทั้งเศรษฐกิจ-สังคม-โควิด ไม่ไหวแล้วนะ
นี่คือสิ่งที่ กลุ่มคนรุ่นใหม่-แรงงานที่พึ่งเข้าสู่ระบบ กำลังเผชิญหน้ากันอยู่ เกิดเป็นภาวะ “Early-Life Crisis”
Early-Life Crisis: ชีวิตทำงานพึ่งเริ่มต้นก็เจอวิกฤติเข้าซะแล้ว
เราพูดได้เต็มปากว่า “Early-Life Crisis” คือปรากฎการณ์ใหม่ที่พึ่งเกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมในรอบทศวรรษนี้
มันคือภาวะ “วิตกกังวล” ถึงอนาคตที่ไม่แน่นอนและช่างมืดมัวเหลือเกินของ กลุ่มคนที่พึ่งเข้าสู่โลกการทำงานในช่วงอายุ 20 ต้นๆ และขยายวงกว้างไปถึงช่วงอายุ 30-35 (ก่อนถึง Mid-life)
พวกเค้ากำลัง วิตกจริต / เหน็ดเหนื่อย / ท้อแท้ / เครียด / เศร้า / เหงา / เดียวดาย / ไร้ความฝัน…ล้วนเป็นขั้วอารมณ์ที่บั่นทอนศักยภาพแรงงานหนุ่มสาว และชี้ชะตาอนาคตของประเทศได้เลย
ที่ญี่ปุ่น หนุ่มสาวกลุ่มนี้เบื่อหน่ายชีวิตการทำงานที่หนักหนาและเคร่งเครียดของสังคมญี่ปุ่น ท้อแท้ถึงขั้น “เลิกทำงาน” ปล่อยวางทุกสิ่ง กลายเป็นกลุ่มคนที่สังคมเรียกว่า “NEET” (Not in Education, Employment or Training) เกิดค่าเสียโอกาสมหาศาล เพราะญี่ปุ่นยิ่งเข้าสู่สังคมสูงวัยเต็มตัวแล้ว
นี่เป็นสถานการณ์ที่กลุ่ม Baby Boomers อาจไม่เข้าใจ เพราะดังที่เราจะได้ทราบ…มีปัจจัยมากมายที่คนยุคนี้ประสบพบเจอ ซึ่งแตกต่างและหาไม่ได้จากยุค Baby Boomers ชนิดอยู่กันคนละขั้ว
ทำไมถึงเกิด Early-Life Crisis ขึ้นได้?
Early-Life Crisis มีหลากหลายสาเหตุทั้งภายนอก-ภายใน ควบคุมได้-ควบคุมไม่ได้ ซึ่งจุดชนวนให้เกิดความรู้สึกแสนสิ้นหวังนี้ในเวลาก่อนอันควร
อย่างแรกเลย เพราะ “เทคโนโลยีหมุนเร็วเกินไป” ของเดิมยังไม่ทันเก่ง ของใหม่มาให้เรียนรู้เพิ่มแล้ว แม้จะพยายามเรียนรู้พัฒนาตัวเองแค่ไหนแล้ว…แต่ก็ตามไม่ทัน
ยุคสมัยก่อน เวลาทำงานมาได้ซักพัก เช่น 5-10 ปี คุณจะสั่งสมองค์ความรู้จนเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมนั้นตามอายุงาน (Established knowledge)
แต่ปัจจุบัน เรื่องนี้ไม่จริงเสมอไป โดยเฉพาะเรื่องที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เช่น Online Marketing ที่ต้องแข่งขันกัน “เรียนรู้อยู่ตลอด”
และบางคนที่ดัน “ตกขบวนรถ” ไปแล้ว จะเกิดช่องว่างด้านทักษะและความรู้ (Knowledge gap) ที่ถ่างออกไปจนเชื่อมไม่ติด และเป็นเรื่องยากมากๆ ที่จะ “ตามทัน”
ที่จะมองข้ามไปไม่ได้เลยคือ “การตัดสินใจ” ของพวกเค้าเอง ปฏิเสธไม่ได้ว่าช่วงเริ่มต้นการทำงาน บางคนดัน “เลือกเดินเส้นทางที่ผิดพลาด” เพราะขาดประสบการณ์และการวางแผน ทำให้ Career Path เส้นทางอาขีพของตัวเองไม่ก้าวหน้าตามที่หวัง
ส่วนหนึ่งเพราะก่อนหน้านี้ ไม่มี “แบบประเมินอาชีพ” ที่มีประสิทธิภาพและตอบโจทย์ผู้ทำแบบสอบถามอย่างเข้าอกเข้าใจ
รวมถึงบริบทแวดล้อมต่างๆ
- ไหนจะอิทธิพลของโซเชียลมีเดีย ที่ฉายภาพเพื่อนฝูงที่ประสบความสำเร็จจนตัวเองน้อยเนื้อต่ำใจ
- ไหนจะอิทธิพลโลกการทำงานในกระแสหลักที่สร้างมาตรฐานไว้สูง เช่น “ก่อนอายุ 30 คุณต้องมี 1-2-3-4” พอทำไม่ได้ก็รู้สึกล้มเหลว
ประเด็นนี้อยู่ที่ระบบทุนนิยมเช่นกัน ในช่วง 3-4 ทศวรรษให้หลัง “ความเหลื่อมล้ำ” (Inequality) ได้ถ่างออกขนานใหญ่และต่อเนื่อง นายทุนชนชั้นนำมีแต่รวยขึ้น ส่วนชนชั้นกลางต้องทำงานเหนื่อยมากขึ้น ขณะที่คนจนมีแต่จนลง
อย่างเช่น “ราคาที่อยู่อาศัย” ตัวอย่างสุดโต่งคือที่ “ฮ่องกง” เรียกได้ว่าหนุ่มสาวชาวฮ่องกง…แม้จะทำงานหนักแค่ไหน ก็ไม่มีปัญญา “ซื้อ” ที่อยู่อาศัยได้ซักหลัง แต่ต้อง “เช่า” อยู่ตลอดชีวิต เพราะราคาพุ่งสูงเกินกว่าที่รายได้คนธรรมดาจะเอื้อมถึง
เมื่อซูมออกมาดูที่ “ภาพใหญ่” ระดับโลก จะช่วยให้เราเข้าใจมากขึ้นว่าทำไมถึงเหตุภาวะนี้
Gen-Y ที่เกิดในยุค 90s ซึ่งปัจจุบันเข้าสู่วัยทำงาน (และอาจกำลังเผชิญกับ Early-Life Crisis) ได้ผ่านพ้นวิกฤติที่ถือว่า “ถี่” ที่สุดช่วงหนึ่งของโลก
- ปี 1997 – วิกฤติต้มยำกุ้ง
- ปี 2001 – เหตุการณ์ 911 ตลาดหุ้นร่วง
- ปี 2008 – วิกฤติแฮมเบอร์เกอร์
- ปี 2019 – โรคระบาดโควิด-19
นี่ยังไม่รวมถึงปัจจัยทางการเมือง หรือ กฎระเบียบทางการค้าต่างๆ ที่สร้างข้อจำกัดในการเติบโตของเส้นทางอาชีพ
คุณ Morgan Housel ผู้เขียนหนังสือขายดีระดับโลกอย่าง The Psychology of Money เผยว่า เราทุกคนมีมุมมองทัศนคติด้านการใช้ชีวิต-การใช้เงิน ที่แตกต่างกันโดยแทบจะไม่สามารถเข้าใจกันและกันได้เลย เพราะพวกเราดันเกิดมาในคนละยุคสมัย ครอบครัวมีฐานะทางเศรษฐกิจที่ต่างกัน ระบบการปกครองของประเทศต่างกัน ตลาดแรงงานต่างกัน ผลลัพธ์ที่ได้ย่อมต่างกัน
เรื่องนี้สะท้อนมายังสังคมไทยได้
ทศวรรษ 1980-1990 ดอกเบี้ยเงินฝากธนาคารในเมืองไทย ขึ้นไปถึง 10%++ คุณไม่จำเป็นต้องมีความรู้ด้านการเงิน-การลงทุนเลยก็ได้ ขอแค่มีนิสัย “ประหยัดอดออม” แค่ฝากเงินในธนาคาร ก็ให้ผลตอบแทนถึงปีละ 10%++ แล้ว
แต่ปัจจุบัน ดอกเบี้ยเงินฝากธนาคารแทบไม่ถึง 1% ด้วยซ้ำ การจะให้เงินทำงานแทนเรา คุณจำเป็นต้อง “รอบรู้” ด้านการเงิน-การลงทุน: หุ้น / ตราสารหนี้ / อสังหาริมทรัพย์ / ทองคำ / คริปโต เพื่อให้ได้ผลตอบแทนปีละ 10%
เมื่อสภาพการณ์ของโลกเป็นเช่นนี้ Early-Life Crisis จึงไม่ได้เกิดขึ้นแค่ในเมืองไทย แต่เกิดขึ้นในอีกหลายแห่งทั่วโลก
แล้วจะทำอย่างไร?
เรื่องนี้ไม่มีทางออกที่ง่าย ทางเดียวที่ทำได้คือเผชิญหน้ากับปัญหาใน “มุมมองใหม่ๆ”
จากเดิมที่มองว่าการพัฒนาตัวเองอยู่ตลอดเป็นความเครียดและกดดัน ลองเปลี่ยนเป็นความ “สนุก” ที่ได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ เอนจอยไปกับมัน และไม่ลืมที่จะ “โฟกัส” เรื่องที่สร้างประโยชน์ให้กับตัวเองที่สุด
ส่วนการตัดสินใจที่ผิดพลาดในช่วงแรกของการทำงาน ต้องรู้จัก “ให้อภัย” ตัวเอง อดีตผ่านมาแล้วแก้ไขไม่ได้ เราทำได้ดีที่สุดแค่ปัจจุบันและอนาคต ก่อนจะเริ่มต้นใหม่ “วางแผนเส้นทางชีวิต” อย่างรัดกุมมากขึ้น
เรื่องความเหลื่อมล้ำและวิกฤติเศรษฐกิจเป็นปัจจัยภายนอกที่ควบคุมไม่ได้ 100% แต่เรา “ควบคุมตัวเอง” ได้ เช่น
- จากเดิมแบ่งเงิน 10% ของรายได้เป็น “เงินเก็บยามเกษียณ” ก็ให้เพิ่มเป็น 20%
- แม้รายได้เพิ่มขึ้น แต่ลองค้นหาไลฟ์สไตล์ที่ทำให้คุณมีความสุขโดยไม่เสียเงินเพิ่มขึ้น
- เปิดใจรับเครื่องมือการลงทุนใหม่ๆ เช่น ลงทุนในคริปโต หรือ ที่ดินในโลกเสมือน Metaverse
Early-Life Crisis ถือเป็นสถานการณ์ที่ค่อนข้างใหม่และเกิดขึ้นหลายแห่งทั่วโลก เรายังไม่ค่อยมีบทเรียนจากประวัติศาสตร์นัก
แต่ถ้าเราตระหนักถึงประเด็นนี้ และหาทางรับมือ ก็น่าจะช่วยให้เข้าใจคนกลุ่มนี้-เข้าใจตัวเองได้มากขึ้น
.
ทำ “แบบประเมินอาชีพ” จาก CareerVisa เพื่อค้นหาอาชีพที่ใช่ งานที่ชอบ…จะได้มีความสุขในการทำงานทุกๆ วัน >>> https://www.careervisaassessment.com/five-shades-assessment-th/
ยังไม่รู้จะหางานอะไรดี? รีบเข้าไปที่ >>> www.careervisaassessment.com
ทำ Resume แบบมืออาชีพได้ง่ายๆ ที่ >>> https://myrightcareer.net/
Original Image Cr. bit.ly/3nu7I7q
อ้างอิง
- https://www.forbes.com/sites/tessbrigham/2021/03/24/managing-a-quarter-life-crisis-in-the-midst-of-a-crisis/?sh=35d292496393
- https://www.themuse.com/advice/powering-through-your-quarterlife-crisis
- https://www.washingtonpost.com/business/2020/05/27/millennial-recession-covid/
- https://www.investopedia.com/insights/how-financial-crisis-affected-millennials/
- https://www.nytimes.com/interactive/2019/07/22/world/asia/hong-kong-housing-inequality.html