Law of Jante: เคล็ดลับการทำงาน & ใช้ชีวิต ของชาวสแกนดิเนเวียน

Law of Jante: เคล็ดลับการทำงาน & ใช้ชีวิต ของชาวสแกนดิเนเวียน
  • ประเทศในแถบสแกนดิเนเวีย ล้วนเป็นประเทศที่พัฒนาแล้วทั้งสิ้น
  • มี GDP/หัว สูงที่สุดอันดับต้นๆ ของโลก
  • ติด Top5 ประเทศที่ผู้คนมีความสุขที่สุดในโลก

ทั้งด้านความสุข ความเจริญของประเทศ หรืออุปนิสัยการทำงาน ทุกอย่างล้วนอยู่ภายใต้ปรัชญาที่ชาวสแกนดิเนเวียนแชร์ร่วมกันหมดนั่นคือ “Law of Jante” 

(ปล. ประเทศในแถบสแกนดิเนเวีย หลักๆ มีอยู่ 3 ประเทศด้วยกัน ได้แก่ สวีเดน / นอร์เวย์ / เดนมาร์ก )

Law of Jante คืออะไร? 

“กฎของยานเต้” เป็น Mindset ปรัชญาการดำเนินชีวิต & การทำงานที่ชาวสแกนดิเนเวียนยึดถือปฏิบัติมาช้านานแล้ว

มีใจความสรุปได้ว่า…”คุณอาจไม่ได้ดี-เก่ง-เหนือไปกว่าผู้อื่น”

ซึ่งเป็นรากฐานความคิดที่ส่งเสริมความเท่าเทียม ลดความเหลื่อมล้ำ การเคารพให้เกียรติซึ่งกันและกัน ความซื่อสัตย์สุจริต และถ่อมตนอย่างพินอบพิเทา…ซึ่งจะว่าไป ก็เป็นคาแรคเตอร์ของชาวสแกนดิเนเวียนเลยทีเดียว

Image Cr. https://bit.ly/3f1VkYc

โดยถ้าว่าตามหลักการแล้ว กฎของยานเต้มีอยู่ 10 ข้อด้วยกัน

  1. อย่าคิดว่าตัวเอง…พิเศษเลิศเลอ
  2. อย่าคิดว่าตัวเอง…เป็นคนดีศรีประเสริฐ
  3. อย่าคิดว่าตัวเอง…ฉลาดกว่าผู้อื่น
  4. อย่าคิดว่าตัวเอง…เหนือกว่าผู้อื่น
  5. อย่าคิดว่าตัวเอง…มีมากกว่าผู้อื่น
  6. อย่าคิดว่าตัวเอง…สลักสำคัญกว่าผู้อื่น
  7. อย่าคิดว่าตัวเอง…เก่งไปซะทุกเรื่อง
  8. อย่าคิดว่าตัวเอง…จะได้รับความสนใจจากผู้อื่น
  9. อย่าคิดว่าตัวเอง…จะเที่ยวไปสั่งสอนผู้อื่นได้
  10. อย่าหัวเราะเยาะผู้อื่น (ความคิด, รูปลักษณ์, การกระทำ)

เราจะจับใจความได้ว่า ทุกข้อล้วนต้องการสื่อว่าเราอาจไม่ได้ดี-เก่ง-เหนือไปกว่าคนอื่น จึงควรปฏิบัติต่อกันอย่างให้เกียรติในฐานะเพื่อนมนุษย์ 

อย่าเข้าใจผิด Law of Jante ไม่ได้ทำให้คุณ “ด้อยค่า” ตัวเอง หากแต่เป็นการ “มองเห็นคุณค่า” ในตัวผู้อื่นต่างหาก นำไปสู่ Team Spirit สปิริตการให้ความร่วมมือทำงานกันเป็นทีมนั่นเอง

(Law of Jante จึงเป็นแนวคิดที่แทบจะอยู่ขั้วตรงข้ามกับแนวคิดแบบปัจเจกชน Individualism หรือแนวคิดการแบ่งชนชั้น เช่น “ตั้งใจเรียนสูงๆ โตขึ้นจะได้เป็นเจ้าคนนายคน”)

Law of Jante ในชีวิต & การทำงาน

ในแง่ของความสุข การที่เรามี Law of Jante อาจทำให้เรามี “เป้าหมาย” ขนาดกลางๆ ไม่ยิ่งใหญ่เว่อร์วัง ข่าวดีคือ มีโอกาสที่จะทำสำเร็จได้มากกว่า และกรณีถ้ามันให้ผลลัพธ์ที่สูงเกินความคาดหมายไปมาก ก็มีแนวโน้มทำให้มีความสุขเพิ่มมากขึ้นตาม

Image Cr. bit.ly/3u9IDz2

เรื่องนี้สอดคล้องกับผลวิจัยจาก University College of London (UCL) ว่า การมีความคาดหวังที่ต่ำ (Low expectation) สามารถช่วยกระตุ้นความสุขมากขึ้นได้

Image Cr. bit.ly/3u9IDz2

การมีเป้าหมายไม่ใหญ่โตโอ่อ่า ยังสอดคล้องกับคำพูดของ Alexander Loyd ผู้เขียนหนังสือขายดีอย่าง Beyond Willpower ที่กล่าวว่า 

“Don’t set yourself for failure.” ในช่วงเริ่มต้น อย่าทำอะไรที่ใหญ่เกินตัว (ประเมินตัวเองสูงไป) เพราะมักนำไปสู่ความท้อแท้และล้มเหลว เช่น

  • การทำงาน: เริ่มงานวันแรกอย่าหักโหมวันละ 12 ชั่วโมง
  • การออกกำลังกาย: อย่าเริ่มต้นด้วยการวิ่งวันละ 10 กิโลเมตร

.

สำหรับในแง่การทำงาน บริษัทอาจตั้งข้อสงสัยกับพนักงานคนนี้ที่มี Law of Jante (เช่น ไม่ได้ฝันใหญ่) ว่าจะบั่นทอนความคิดสร้างสรรค์หรือไม่?

แต่ไม่ต้องห่วงว่า Law of Jante จะทำให้พนักงานไม่ Productive หรือขี้เกียจ ในทางตรงข้าม กลับกลายเป็นว่ามันเป็นเครื่องเตือนสติในการ “คิดวิเคราะห์” อย่างถี่ถ้วนรอบคอบ ไม่ได้มองอะไรแบบผิวเผิน และมี Empathy เอาใจเค้ามาใส่ใจเรา เช่น

  • สอบถามความคิดเห็นเพื่อนร่วมงานเพื่อให้มีมุมมองหลากหลายด้าน (เพราะคิดว่าเราไม่ได้ฉลาดกว่าคนอื่น…ละทิ้งอีโก้)
  • หาวิธีใหม่ๆ ในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ให้ดูแตกต่าง (เพราะคิดว่าถ้าทำอะไรเดิมๆ แล้วใครจะมาสนใจเรา…ไม่ได้เอาตัวเองเป็นศูนย์กลางจักรวาล)

และด้วยแนวคิดที่ย้ำเตือนเสมอว่าคุณอาจไม่ได้ดี-เก่ง-เหนือไปกว่าผู้อื่น ก็ทำให้คุณอยากที่จะพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่องไม่รู้จบ (Continuous improvement) ซึ่งคือหัวใจในการทำงานของยุคนี้เลยที่อะไรเปลี่ยนแปลงไปเร็วมาก

นอกจากนี้วัฒนธรรมการทำงานของชาวสแกนดิเนเวียน หัวหน้าจะเป็นฝ่าย “มอบ” ความไว้วางใจให้ลูกน้องก่อนเลย (Give trust first) ที่เหลือ…เป็นหน้าที่ลูกน้องที่จะต้องพิสูจน์ตัวเองแล้วว่าทำได้หรือไม่ นี่อาจเป็นวิธีเข้าสู่ “Flow State” ได้อย่างราบรื่น เพราะเมื่อเราปราศจากความ “กังวล” ก็สามารถโฟกัสงานตรงหน้าได้เต็มที่ สร้างนวัตกรรมใหม่ๆ 

และต้องไม่ลืมว่า พนักงานที่ยึดมั่นใน Law of Jante ยังช่วยลดปัญหา “การเมืองในที่ทำงาน” ลงได้ เพราะทุกคนเคารพซึ่งกันและกัน อยู่ภายใต้กฎทั้ง 10 ข้อ

ประเด็นเรื่องความเท่าเทียมและคอร์รัปชั่นก็น้อยลงตามถ้าทุกคนยึดมั่น Law of Jante ซึ่งประเทศแถบสแกนดิเนเวียมีสถิติอันน่าประทับใจมาโดยตลอด

  • สวีเดน อยู่อันดับ 2 ของโลก ประเทศที่เหมาะแก่การทำธุรกิจ
  • นอร์เวย์ อยู่อันดับ 2 ของโลก ในเรื่องความเท่าเทียมทางเพศ
  • เดนมาร์ก อยู่อันดับ 1 ของโลก เรื่องการคอร์รัปชั่นที่ต่ำมาก

Law of Jante ไม่ได้จำกัดศักยภาพของคน มันแค่คอยเตือนสติเราไม่ให้ประมาทเลินเล่อ ในภาพใหญ่ เราสามารถดูได้จากตัวอย่างแบรนด์สัญชาติสแกนดิเนเวียนที่โด่งดังไปทั่วโลก เช่น

AstraZeneca / IKEA / Skype / H&M / Volvo / Spotify / Nokia / Lego / Carlsberg / Saab / Ericsson / Bang & Olufsen ฯลฯ

ปัจเจกชนชาวสแกนดิเนเวียนยังขึ้นว่ามีการศึกษาสูง เป็นแรงงานมีฝีมือ ซึ่งก็สะท้อนมาสู่รายได้เฉลี่ยที่สูงตาม 

  • GDP/หัว ชาวสวีเดน 138,000 บาท/เดือน
  • GDP/หัว ชาวเดนมาร์ก 160,000 บาท/เดือน
  • GDP/หัว ชาวนอร์เวย์ 208,000 บาท/เดือน

เราจะเห็นชัดเจนเลยว่า Law of Jante ไม่ได้ฉุดรั้งความสามารถของมนุษย์ หากแต่มันตอกย้ำถึง “คุณค่า” ที่เราควรปฏิบัติต่อเพื่อนมนุษย์ด้วยกันอย่าง ความเท่าเทียม / การเคารพให้เกียรติซึ่งกันและกัน / ความซื่อสัตย์สุจริต / หรือความอ่อนน้อมถ่อมตน

.

ทำ “แบบประเมินอาชีพ” จาก CareerVisa เพื่อค้นหาอาชีพที่ใช่ งานที่ชอบ จะได้ทำงานอย่างมีความสุขในทุกๆ วัน >>> https://www.careervisaassessment.com/five-shades-assessment-th/

ยังไม่รู้จะหางานอะไรดี? รีบเข้าไปที่ >>> www.careervisaassessment.com

ทำ Resume แบบมืออาชีพได้ง่ายๆ ที่ >>> https://myrightcareer.net/

อ้างอิง