McKinsey ปั้นองค์กรอย่างไร? สู่บริษัทที่ปรึกษาเบอร์ 1 ของโลก

McKinsey ปั้นองค์กรอย่างไร? สู่บริษัทที่ปรึกษาเบอร์ 1 ของโลก
  • McKinsey คือบริษัทที่ปรึกษาเบอร์ 1 ของโลก
  • รายได้กว่า 300,000 ล้านบาท พนักงานกว่า 30,000 คน
  • ให้คำปรึกษาบริษัทที่ใหญ่ที่สุดในโลก 90 จาก 100 บริษัท

ในแทบทุกการตัดสินใจเชิงโครงสร้างของบริษัทชั้นนำของโลก…จะต้องมีชื่อ McKinsey เป็นที่ปรึกษาอยู่เบื้องหลัง 

น่าสนใจไม่น้อยว่า McKinsey ปั้นองค์กรอย่างไร? ถึงมีอิทธิพลและได้รับความไว้วางใจมากขนาดนี้

จุดเริ่มต้นจากความไร้ประสิทธิภาพ

McKinsey & Company ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1926 โดยศาสตราจารย์ James O. McKinsey จากอดีตที่เคยปรึกษากลยุทธ์ทางธุรกิจให้แก่องค์กร รัฐบาล และสถาบันชั้นนำต่างๆ ได้ผันตัวมาเปิดบริษัทที่ปรึกษาของตัวเอง

เขาได้แรงบันดาลใจจากก่อตั้งบริษัทมาจากการเห็น ความไร้ซึ่งประสิทธิภาพ (Inefficiencies) ในการบริหารงานองค์กรมากมาย…แม้แต่องค์กรใหญ่ก็ตาม ด้วยสเกลที่ใหญ่ ความไร้ประสิทธิภาพจึงมีผลกระทบแง่ลบมากตามไปด้วย เขาจึงตั้งบริษัทขึ้นมาเพื่อช่วยเหลือตรงนี้

แรกเริ่มให้คำปรึกษาด้านการบริหารธุรกิจโดยอิงจาก “หลักการทางบัญชี” (ผู้ก่อตั้งมีความเชี่ยวชาญในด้านนี้โดยตรง) มาวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อค้นหาวิธีพัฒนาประสิทธิภาพองค์กร ก่อนจะขยายครอบคลุมไปอุตสาหกรรมอื่นๆ พร้อมกับการพัฒนาองค์ความรู้เชิงลึกเฉพาะทาง 

Diagram

Description automatically generated

จนก้าวขึ้นสู่บริษัทที่ปรึกษาเบอร์ 1 ของโลกในไม่กี่ทศวรรษต่อมา

Only Top Talents Hired 

สำหรับวงการที่ปรึกษา “สินทรัพย์” (Asset) ที่มีมูลค่ามากที่สุดคือ “ตัวบุคลากร” (Consultants) เอง ที่ต้องสวมหมวกที่ปรึกษาให้แก่ลูกค้าบริษัทชั้นนำทั่วโลก 

McKinsey จึงมีชื่อเสียงด้านความหินในการรับสมัครงาน แคนดิเดตที่บริษัทมองหาต้องเป็นคนเฉลียวฉลาด / มีไหวพริบ / มี Growth Mindset / แก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ / ที่สำคัญ…มีตรรกะเหตุผลและกระบวนการคิดอย่างเป็นระบบ เช่น เวลาให้โจทย์ตอนสัมภาษณ์ บริษัทคาดหวังการให้คำตอบที่เป็นระบบระเบียบ (Structured approach)

A group of men in suits

Description automatically generated with low confidence

บริษัทยังให้ความสำคัญด้าน “คาแรคเตอร์” นอกเหนือไปจากความรอบรู้เฉพาะด้าน

  • ทักษะการสื่อสาร – อธิบายเรื่องยากให้เข้าใจง่าย
  • ทักษะเชื่อมโยงความรู้ – เป็นวิศวกรแต่ก็ต้องพอเข้าใจการตลาดออนไลน์
  • คาแรคเตอร์ความเป็นผู้นำ – จะไปมีบทบาทต่อลูกค้าผู้นำองค์กรในอนาคต

สำหรับเด็กจบใหม่ บริษัทแทบจะโฟกัสเฉพาะ Business School จากมหาวิทยาลัยชั้นนำของโลกก็ว่าได้ เช่น Harvard / Stanford / MIT / Wharton / Kellogg

โดยสรุป พื้นฐานพนักงานที่ McKinsey แทบทุกคน ใกล้เคียงอุดมคติความเป็น “Versatilist” ที่สุดแล้วก็ว่าได้ 

A group of men looking at a paper

Description automatically generated with medium confidence

แม้การสมัครงานจะหิน แต่ค่าตอบแทนก็สูงตาม และได้มีโอกาสทำงานโดยตรงกับ CEO ในหลากหลายอุตสาหกรรม ในปี 2018 มีแคนดิเดตทั่วโลกสมัครงานเข้ามาที่ McKinsey กว่า 800,000 คนเลยทีเดียว

มีการประเมินว่า โอกาสที่พนักงาน McKinsey จะก้าวขึ้นไปเป็น CEO บริษัทในอนาคต สัดส่วนมากถึง 1:690

ปี 2011 อดีตพนักงาน McKinsey กว่า 150 คน ได้ก้าวขึ้นมาดำรงตำแหน่งผู้นำองค์กรที่มียอดขายเกิน 30,000 ล้านบาท

ตัวอย่าง อดีตพนักงาน McKinsey

  • Sundar Pichai CEO คนปัจจุบันของ Google 
  • Sheryl Sandberg COO คนปัจจุบันของ Facebook
  • Helmut Panke อดีต CEO ของ BMW
  • James McNerney อดีต CEO ของ Boeing

McKinsey’s Principles

บริษัทได้ออกแบบ “หลักการ” (Principles) ในการทำงานที่เป็นกฎเหล็กและปฏิบัติกันทุกสาขาทั่วโลก ซึ่งช่วยให้การทำงานมีประสิทธิภาพสูงสุดและหล่อหลอมวัฒนธรรมองค์กร ไม่ว่าจะเป็น

  • ทำงานโดยตรงกับ CEO บริษัท (หรือคนที่มีอำนาจตัดสินใจเบ็ดเสร็จ)
  • ไม่เข้าไปพัวพันกับเรื่องในองค์กรของลูกค้า (Internal affairs)
  • นำเสนอข้อเท็จจริง แม้จะไม่ถูกใจลูกค้า
  • ก่อนเซ็นสัญญา จะเลือกเฉพาะลูกค้าที่พร้อมจะยินดีทำตามคำแนะนำ
Close-up of hands shaking

Description automatically generated

แม้ไม่มีกำหนดระยะเวลาตายตัว แต่โดยเฉลี่ย ในแต่ละโปรเจคท์จะเข้าไปร่วมเป็นที่ปรึกษานาน 2-12 เดือน และใช้ที่ปรึกษาของบริษัทราว 3-6 คน

ให้คำปรึกษาการบริหารธุรกิจและกลยุทธ์เชิงนโยบาย เช่น การเข้าซื้อกิจการ / การปรับโครงสร้างแรงงาน / การลดขนาดองค์กร / การขยายไปสู่ธุรกิจใหม่ๆ

One-Firm Partnership 

McKinsey มีการสร้างนโยบายที่เรียกว่า ”One-Firm Partnership” เป็นการปรับวัฒนธรรมองค์กรและวิธีการทำงานให้เหมือนกันทั่วโลก พนักงานของ McKinsey กว่า 30,000 คน ใน 65 ประเทศทั่วโลก จะได้รับ Training / อบรมคุณค่า / และมีมาตรฐานการทำงานที่สูงลิบไปในแนวทางเดียวกัน 

นโยบายนี้ยังเป็นการสร้างความแตกต่างจากคู่แข่งอย่าง Boston Consulting Group ที่ใช้นโยบาย “Strong Local Office Culture” (ปรับให้เข้ากับแต่ละประเทศ)

McKinsey ยังมีโครงสร้างบริษัทแบบ ”Flat Hierarchy” มีความเท่าเทียมกันระดับหนึ่ง และผู้นำสูงสุดมาจากการโหวตเลือก 

Framework

เวลาได้รับมอบหมายให้ดูแลลูกค้าแต่ละอุตสาหกรรม พนักงาน McKinsey ถูกอบรมให้นำเสนอทางแก้ปัญหาด้วย “Framework” เสมอ พร้อมแจกแจงขั้นตอนอย่างเป็นระบบ (ไม่ใช่แค่อธิบายเหตุผลทั่วไป)

A picture containing person, outdoor, grass, sport

Description automatically generated

เรื่องนี้นอกจากจะทำให้ลูกค้าเข้าใจง่ายขึ้นแล้ว ยังเป็นวิธีที่ดูน่าเชื่อถือด้วย ตัวอย่างเช่น 

  • Overhead Value Analysis (OVA) ในยุค 1970s
  • The 7-S Framework ในยุค 1980s
  • The ACADEMIES© Framework ในปี 2018
  • The Great Resignation ในยุคหลังโควิด-19

ภาพลักษณ์ดี

ในบางประเทศ มีกฎระเบียบปฏิบัติที่รู้กันภายใน เช่น สไตล์การแต่งตัว หรือ สถานที่นัดพบ

  • เวลาพักผ่อนตามร้านกาแฟข้างนอก อย่างน้อยควรเป็นร้านมีมาตรฐาน เช่น  Starbucks 
  • เวลานัดทานข้าวกับผู้บริหาร ควรเลือกร้านอาหารชื่อดังที่ตั้งอยู่ในโรงแรม
A picture containing person, person, suit, wearing

Description automatically generated

ทั้งนี้ เพื่อความปลอดภัยของข้อมูลในมือ / ความเป็นส่วนตัวกับลูกค้า / และภาพลักษณ์น่าเชื่อถือของทั้งตัวพนักงานและองค์กร

Crisis Management 

ที่ปรึกษาจาก McKinsey ยังอยู่เบื้องหลังการปรับโมเดลธุรกิจให้หลายบริษัทอยู่รอดในยามวิกฤติ ล่าสุดช่วงโควิด-19 ก็เป็นดั่ง “ที่พึ่งยามยาก” ซึ่งได้รับความเคารพนับถือจากองค์กร(และสามารถตั้งค่าบริการได้สูง)

McKinsey ยังเป็นหนึ่งในเบื้องหลังเจ้าแรกๆ ที่ทำให้ทั่วโลกตระหนักรู้ถึงคำศัพท์อย่าง K-shaped Recovery / New Normal / The Great Resignation

แม้องค์กรจะมีบุคลากรภายในที่เก่ง แต่การจ้างที่ปรึกษาเฉพาะทางที่เป็นคนนอกมาช่วยวิเคราะห์ ก็ย่อมเปิดมุมมองที่รอบด้านขึ้นและได้องค์ความรู้เชิงลึกใหม่ๆ บริษัทที่ปรึกษาอย่าง McKinsey ก็น่าจะมีอิทธิพลต่อองค์กรชั้นนำของโลกไปอีกนาน

.

ทำ “แบบประเมินอาชีพ” จาก CareerVisa เพื่อค้นหาอาชีพที่ใช่ งานที่ชอบ…จะได้มีความสุขในการทำงานทุกๆ วัน >>> https://www.careervisaassessment.com/five-shades-assessment-th/

ยังไม่รู้จะหางานอะไรดี? รีบเข้าไปที่ >>> www.careervisaassessment.com

ทำ Resume แบบมืออาชีพได้ง่ายๆ ที่ >>> https://myrightcareer.net/

อ้างอิง