จากบทความก่อน เราพูดถึงเรื่อง “Brand Archetype” ตัวตนในฐานะของแบรนด์ตัวองค์กร
แต่ความจริงแล้วเรื่องนี้ ยังมีอีกมุมมองหนึ่ง ที่เรียกว่า “Personal Brand Archetype” ตัวตนในฐานะบุคคล(ผู้นำองค์กร) ว่าเป็นประเภทไหนจากทั้งหมด 12 ประเภท
เวลาผู้คน “นึกถึงผู้นำคนนี้…จะนึกถึงอะไร?” อารมณ์ความรู้สึกแว่บแรกที่เกิดขึ้นคืออะไร ซึ่งเป็นพื้นฐานของการสร้าง “แบรนด์บุคคล” ที่กำลังเป็นที่นิยมในยุคนี้
เราตามไปดู Personal Brand Archetype ทั้ง 12 ประเภทกัน
1. The Outlaw – นักเปลี่ยนแปลง
กล้าหาญที่จะปฏิวัติวงการ ทิ้งสิ่งเดิมที่ไม่เวิร์ค รับสิ่งใหม่ที่เวิร์คกว่า เชื่อมั่นว่ากฎมีไว้แหก ฉีกทุกกฎเกณฑ์ที่คร่ำครึ พร้อมเสี่ยงเพื่อไปสู่จุดหมาย กล้าแตกต่าง มีจุดยืนอุดมการณ์ที่แข็งแกร่ง
- เช่น Elon Musk / Mark Zuckerberg / ชัชชาติ สิทธิ์พันธุ์
2. The Ruler – นักปกครอง
ต้องการอำนาจแบบรวมศูนย์เพื่อการควบคุมจัดการแบบบูรณาการ มีทักษะการบริหารจัดการเป็นเลิศ ปฏิบัติยึดมั่นตามขนมเดิมที่เคยมีมา เด็ดเดี่ยวในการออกคำสั่ง ใส่ใจเรื่องภาพลักษณ์ทางสังคม ไม่ชอบการเซอไพรส์
- เช่น Winston Churchill / Bill Gates / Donald Trump
3. The Sage – นักวิเคราะห์
ฉลาดหลักแหลม มีไหวพริบแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ วางแผนเก่ง คาดการณ์สิ่งที่จะเกิดขึ้นได้แม่นยำ หัวเร็วคิดเร็ว ข้อมูลแน่นรู้ลึกรู้จริง ชอบถกเถียงและตั้งคำถาม ชอบใช้ตรรกะเหตุผลชี้นำทาง เปิดรับการวิพากษ์วิจารณ์ที่สร้างสรรค์ มีความน่าเชื่อถือสูง
- เช่น Ray Dalio / Warren Buffett / เคน นครินทร์
4. The Innocent – ผู้สดใส
เข้าได้กับทุกคน มอบความสบายอกสบายใจ อยู่ด้วยแล้วรู้สึกสบายใจปลอดภัย มีทัศนคติการมองโลกเชิงบวก ซื่อสัตย์สุจริต ยึดมั่นในคำมั่นสัญญา มองโลกในแง่บวก ไม่จมปลักต่อปัญหา ประสานงานเป็นเลิศ
- เช่น Oprah Winfrey / J.K. Rowling / แป้ง นวลพรรณ ล่ำซำ
5. The Lover – เจ้าเสน่ห์
น่าค้นหา มีเสน่ห์ชวนหลงใหลเคลิบเคลิ้ม ใครเห็นก็อยากเข้าหาทำความรู้จัก มีกลิ่นอายที่ชัดเจนของความอบอุ่น เปิดรับความใกล้ชิดสนิทสนม มีรสนิยมและแรงดึงดูด เป็นเลิศด้านความสัมพันธ์ สัมผัสได้ถึงความเป็นเมตตากรุณา ไม่ตกเป็นทาสของเหตุผล แต่ยอมปล่อยใจตามอารมณ์
- เช่น Howard Schultz / Marilyn Monroe / ใหม่ ดาวิกา
6. The Jester – ผู้ร่าเริง
สนุกสนาน มีความเพลิดเพลินทางจิตวิญญาณ อารมณ์ดี มีอารมณ์ขันอยู่ด้วยแล้วหัวเราะได้ มีศิลปะและสุนทรีในหัวใจ อยู่ด้วยแล้วชีวิตมีสีสันปลุกเร้าความตื่นเต้น พร้อมหัวคิดที่สร้างสรรค์
- เช่น Rowan Atkinson (Mr. Bean) / Nigel Ng Kin-ju (Uncle Roger) / โน๊ต อุดมแต้พานิช
7. The Explorer – นักค้นหา
เสพติดการออกผจญภัย ตื่นเต้นกับความไม่รู้ เปิดรับความเป็นไปได้ใหม่ๆ โอบกอดความท้าทาย มองเรื่องหนึ่งด้วยมุมมองหลายด้าน หมั่นตั้งคำถามกับสิ่งรอบตัว
- เช่น Richard Branson / David Attenborough / สิงห์ วรรณสิงห์
8. The Creator – นักสร้างสรรค์
คิดนอกกรอบ ปฏิเสธความจำเจ เชี่ยวชาญการมองในระดับโครงสร้าง มีพรสวรรค์การระบุต้นตอปัญหาและหาทางแก้ไข มีจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์เป็นเลิศ มีหัวคิดที่แตกต่างไม่ลอกเลียนแบบใคร เฟ้นหาความแปลกใหม่อยู่เสมอ
- เช่น Larry Page / Sundar Pichai / เดอะทอยส์
9. The Hero – ผู้ชนะ
ชอบการแข่งขัน ทะเยอทะยานอย่างต่อเนื่องไม่มีถอย ยึดมั่นในคุณธรรมความถูกต้อง มีเป้าหมายที่ชัดเจนและทำทุกวิถีทางเพื่อบรรลุเป้าหมายให้ได้ พร้อมท้าชนปัญหาแทนผู้อื่น
เช่น Ralph Lauren / Phil Knight / ตูน บอดี้แสลม
10. The Everyman – มิตรสหาย
กัลยาณมิตรที่ดี อบอุ่น เข้าถึงง่าย เป็นที่พึ่งทางใจได้อย่างยอดเยี่ยม ไม่ใช้ตรรกะเหตุผลอย่างเดียวแต่เปิดพื้นที่ให้อารมณ์ได้เบิกบาน เก่งเรื่องความสัมพันธ์ที่ปรองดอง ถ่อมตน คอยรับฟังและให้คำปรึกษาได้
- เช่น Jack Ma / Chuck Feeney / โอ๊ต ปราโมทย์
11. The Magician – นักเวทย์
ทำสิ่งที่เคยเป็นไปไม่ได้ให้เป็นไปได้ เล่นแร่แปรธาตุจนเกิดสิ่งประดิษฐ์ใหม่ๆ มีวิสัยทัศน์ที่กว้างไกลและยิ่งใหญ่ กล้าที่จะแตกต่างเพื่อไปให้ถึงเป้าหมาย วิเคราะห์แม่นยำถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
- เช่น Steve Jobs / Richard Oste (Oatly) / ท๊อป จิรายุส
12. The Caregiver ผู้เมตตา
พร้อมเผื่อแผ่ความรักความห่วงใย ใส่ใจรายละเอียดและคิดถึงผู้อื่น คำนึงถึงผลกระทบที่จะตามมาหลากหลายด้านจากการกระทำ เป็นเลิศด้านการให้บริการ มีความเข้าอกเข้าใจและพร้อมสนับสนุน
- เช่น Michael Bloomberg / Charles Koch / พี่อ้อยพี่ฉอด
ผู้นำประยุกต์ใช้ Personal Brand Archetype ได้อย่างไร?
คำถามแรกที่เด้งขึ้นมาคือ Personal Brand Archetype และ Brand Archetype จำเป็นต้องเหมือนกันหรือไม่? (ตัวตนผู้นำองค์กร และ ตัวตนแบรนด์ ต้องเหมือนกันหรือไม่?)
กรณีที่คุณทำ “CEO Branding” คือซีอีโอหรือผู้นำองค์กรออกสื่อนำทัพ เป็นภาพลักษณ์ตัวแทนให้กับแบรนด์ (นึกถึงแบรนด์นี้จะต้องนึกถึงคนๆ นี้เสมอ) เรียกว่า “จำเป็น” เพราะไม่อย่างงั้น ในมุมมองผู้บริโภค จะเกิดความสับสนในภาพลักษณ์ที่สื่อสารออกมา จนนำไปสู่ความไม่เชื่อมั่นไม่ไว้ใจ เสมือนว่า “พูดไม่ตรงกับที่ทำ” ตัวซีอีโอทำอย่างหนึ่ง แต่ตัวแบรนด์ทำอีกอย่างหนึ่ง
กรณีที่ไม่ได้ทำ CEO Branding อาจไม่มีคำตอบที่ตายตัวขนาดนั้น ซีอีโออาจจะเป็น The Everyman ขณะที่ตัวแบรนด์เป็น The Hero ก็ได้ เพราะไม่มีใครทราบเบื้องหลังของตัวซีอีโออยู่แล้ว
อย่างไรก็ตาม ตัวตนที่แท้จริงไม่ควรจะ “แตกต่าง” อยู่คนละขั้วกันเกินไป
ซีอีโอต้องพึงระลึกเสมอว่า สมมติถ้าตัวตนแบรนด์เป็น The Hero ที่ชื่นชอบการแข่งขัน ต้องทะเยอทะยานเติบโตอยู่ตลอดเวลา ใช้ตรรกะเหตุผลเป็นเลิศ ฟาดคู่แข่งได้คือต้อง(รีบ)ฟาด
…แต่ถ้าตัวเองเป็น The Everyman ที่มีมิตรไมตรี อบอุ่นเข้าถึงง่าย ใช้อารมณ์เป็นหลัก และไม่ได้อยากฟาดคู่แข่ง แต่อยากจับมือเป็นพันธมิตรด้วยซ้ำ
ถ้าตัวตนมัน “ต่าง” สุดขั้วกันเกินไป ย่อมสร้างปัญหาระดับบุคคลคือตัวซีอีโอเองในการบริหารทีม เพราะ “วัฒนธรรมองค์กร” ขององค์กรที่เป็น The Hero และ The Everyman ย่อมแตกต่างกันราวกับคนละขั้วอยู่แล้ว ซึ่งในทางปฏิบัติอาจไม่สามารถเป็นผู้นำทีมให้คนอื่นเดินตามได้ (หรือแม้แต่ถูกกดดันให้ออกจากตำแหน่ง)
และทั้งหมดนี้คือ Personal Brand Archetype ทั้ง 12 ประเภท แล้วตัวตนที่แท้จริงของคุณล่ะ…เป็นประเภทไหนกันแน่?
.
ทำ “แบบประเมินอาชีพ” จาก CareerVisa เพื่อค้นหาอาชีพที่ใช่ งานที่ชอบ…จะได้มีความสุขในการทำงานทุกๆ วัน >>> https://www.careervisaassessment.com/five-shades-assessment-th/
ยังไม่รู้จะหางานอะไรดี? รีบเข้าไปที่ >>> www.careervisaassessment.com
ทำ Resume แบบมืออาชีพได้ง่ายๆ ที่ >>> https://myrightcareer.net/
อ้างอิง