Ferrari ปั้นองค์กรอย่างไร? ถึงเป็นมากกว่ารถซูเปอร์คาร์

Ferrari ปั้นองค์กรอย่างไร? ถึงเป็นมากกว่ารถซูเปอร์คาร์
  • Ferrari มีมูลบริษัทกว่า 1.55 ล้านล้านบาท
  • ปีที่แล้ว รายได้ 133,000 ล้านบาท กำไร 20,600 ล้านบาท
  • และเป็นรถ Supercar ในฝันของใครหลายคน

น่าสนใจไม่น้อยว่า Ferrari มีวิธีปั้นองค์กรอย่างไร? ถึงเป็นรถซูเปอร์คาร์ที่มาพร้อมวิศวกรรมชั้นเลิศดั่งผลงานศิลปะชิ้นเอก สะกดทุกสายตาของผู้พบเห็น และเป็นรถในฝันของใครหลายคนทั่วโลก

Enzo Ferrari

Ferrari ก่อตั้งขึ้นในปี 1939 โดยคุณ Enzo Ferrari ที่เมือง Modena, Italy

โดยเขามีต้นทุนทักษะด้านวิศวกรรมยานยนต์อยู่แล้วเพราะเคยเป็นนักทดสอบรถ นักแข่งรถ และช่างวิศวกรให้กับ Alfa Romeo

…เรียกว่า Ferrari ถูกก่อตั้งโดยเจ้าของที่มีจิตวิญญาณเรื่องความเร็วมาตั้งแต่ต้น!! ซึ่งจะสะท้อนสู่แนวทางการปั้นแบรนด์ในเวลาต่อมา

Scarcity

Ferrari สอบผ่านตั้งแต่ด่านแรก ซึ่งเป็นกฎพื้นฐานของสินค้าหรูนั่นคือความ “หายาก” น้อยคนบนโลกที่จะครอบครอง 

เรื่องนี้สะท้อนมาจาก “ราคา” รถที่สูงลิบ โดยภาพรวมทั่วโลก Ferrari มีราคาเฉลี่ยสูงถึง $200,000-$400,000 ต่อคัน ราคานี้จะพุ่งทะยานขึ้นไปอีกในบางประเทศที่มีภาษีนำเข้ารถยนต์สูง (เช่น ประเทศไทยมีภาษีรถนำเข้า 300%)

ราคาที่สูงยังสืบเนื่องมาจาก “จำนวนการผลิต” ที่จำกัดมากๆ ในแต่ละปี

  • ปี 2019 Toyota ผลิตรถได้ทั้งสิ้น 8,985,000 คัน
  • ปี 2019 Benz ผลิตรถได้ทั้งสิ้น 2,160,000 คัน
  • ปี 2019 Ferrari ผลิตรถได้ทั้งสิ้น 10,100 คัน

Toyota ผลิตรถยนต์มากกว่า Ferrari ถึง 890 เท่า!!

เมื่อสินค้ามีจำกัด ขณะที่ตลาดยังมีความต้องการ…จึงตั้งราคาสูงได้

โรงงานผลิตของ Ferrari ดำเนินการระหว่าง 8:00-17:00 น. ไม่มีวัฒนธรรมกดดันวิศวกรในการทำงานแต่อย่างใด เพราะหลายชิ้นส่วนของ Ferrari ต้องประกอบด้วยมือจากช่างฝีมือ (Craftsmanship) ต้องทำอย่างประณีต…และใช้เวลา

Image Cr. bit.ly/3kgM2e0

เรื่องนี้ผู้บริหารกำชับมาไม่น้อย เพราะมองตัวเองว่าคือแบรนด์หรูที่สร้างสรรค์ “ผลงานศิลปะ” มากกว่าจะเป็นแค่โรงงานเครื่องจักรผลิตรถยนต์เหมือนแบรนด์อื่น

  • ปริมาณ…ไม่สำคัญเท่า คุณภาพ
  • ถ้าลูกค้าจำเป็นต้องรอ…ก็ปล่อยให้เค้ารอไป

ซึ่งก็สะท้อนต่อมาอีกทียัง “ท้องถนน” ที่นานๆ ทีเราจะพบเจอ Ferrari ซักคัน

อะไรที่มีอยู่น้อยนิด…ผู้คนมักให้คุณค่า

Masterpiece Design

ปฏิเสธไม่ได้ว่า Ferrari ทุกคัน “สวย” เป็นงานออกแบบที่ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปีก็ยังสวยดูดีอยู่ (Timeless design)

ดีไซน์อันอ่อยช้อยแต่แฝงความเซ็กซี่และพละกำลัง มีมนตร์เสน่ห์ที่สะกดทุกสายตาของผู้พบเห็นตลอดสองข้างทาง

เรื่องนี้อาศัยความกล้าหาญในจินตนาการงานดีไซน์ไม่น้อย เพราะจุดเริ่มต้น Ferrari ยังไม่ได้ผลิตรถยนต์เป็นของตัวเอง แต่ใช้รถอื่นที่มีอยู่มาดัดแปลงเครื่องยนต์ให้แรงเป็นพิเศษ

ภายหลังหันมาผลิตรถยนต์เป็นของตัวเอง และเริ่มออกแบบดีไซน์ให้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว (Unique design) ในช่วงทศวรรษ 1970s เช่นเปิดตัว Ferrari 365 GT ที่เห็นปุ๊ป-รู้ปั๊ป ว่าคือ Ferrari และยังสวยงามไร้กาลเวลามาถึงทุกวันนี้

Red as Identity

นึกถึงรถเฟอร์รารี่ ต้องนึกถึง “สีแดง” ซึ่งกลายเป็นภาพจำของสาธารณชนทั่วโลกไปแล้ว โดย Ferrari ได้ริเริ่มใช้สีแดงเป็นดั่งตัวแทนของรถเรื่อยมาตั้งแต่ทศวรรษ 1960s-1970s 

สีแดงเข้ากับ Ferrari มากเพราะให้ความรู้สึกถึง ความรวดเร็ว / เซ็กซี่ / สวยงดงาม / โดดเด่น / และเยาว์วัยกระปรี้กระเปร่า

โดยหนุ่มสาวคนรุ่นใหม่ที่ประสบความสำเร็จมักโหยหา Ferrari เป็นซูเปอร์คาร์คันแรกเพื่อเป็นเครื่องชี้วัดความสำเร็จและสัมผัสรสชาติความเร็ว

ขณะที่ผู้หลักผู้ใหญ่ที่ผ่านชีวิตมาเยอะแล้ว ก็หันกลับมามอง Ferrari เช่นกันเพื่ออยากที่จะ “กลับไปเป็นหนุ่มสาว”

Formula One

ฟอร์มูล่าเป็นการแข่งขันรถระดับสูงสุด (และเป็นหนึ่งในกีฬาที่แพงที่สุดในโลก) ถูกจัดแข่งขึ้นครั้งแรกในปี 1950 

Ferrari ถือเป็นทีมที่เก่าแก่ที่สุดและมีสถิติประสบความสำเร็จสูงสุด โดยได้แชมป์ถึง 15 สมัย

นอกจาก Ferrari จะได้พัฒนาวิศวกรรมยานยนต์ไประหว่างทางแล้ว ยังสร้างชื่อเสียงให้กับแบรนด์เป็นที่รู้จักยอมรับไปทั่วโลก 

ตามกระแสโลก

ล่าสุดเปิดตัว Ferrari 296 GTB ซูเปอร์คาร์ 2 ที่นั่งแบบ Plug-in Hybrid เป็นความพยายามที่จะ “ปรับตัว” โลกยานยนต์ที่หันไปขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้ามากขึ้นแล้ว

แต่ยังคงสมรรถนะที่ทรงพลังในแบบ Ferrari อยู่ โดยใช้เครื่องยนต์ V6 เทอร์โบคู่ และมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 122 กิโลวัตต์ รวม 818 แรงม้า

  • 0 – 100 กม./ชม. ใน 2.9 วินาที 
  • 0 – 200 กม./ชม. ใน 7.3 วินาที 
  • ทำความเร็วสูงสุดได้ที่ 330 กม./ชม.

เข้าตลาดหุ้น โตระเบิด

Ferrari นำบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์คในปี 2015 (ด้วยชื่ออักษรย่อ “RACE”)

นับตั้งแต่ Ferrari เข้าตลาดหุ้น มูลค่าบริษัทก็โตระเบิดขึ้นมากว่า 5 เท่าแล้ว

  • จาก 346,200 ล้านบาท ในปี 2015
  • สู่ 1,726,800 ล้านบาท ในปี 2020

ทั้งนี้ มาจากแบรนด์ที่แข็งแกร่ง และจำนวนมหาเศรษฐีเพิ่มขึ้นต่อเนื่องทั่วโลก

เพราะลูกค้าที่มีกำลังซื้อรถเฟอร์รารี่มักไม่อ่อนไหวต่อราคา แบรนด์จึงมีอำนาจในการตั้งราคาที่สูง อัตรากำไรก็มากกว่าแบรนด์รถอื่นในท้องตลาด

จากการสำรวจของ Bloomberg พบว่า Ferrari ได้กำไรจากการขายรถ 1 คันเฉลี่ยสูงถึง $80,000 (ขณะที่ Porsche อยู่ที่ $17,000)

Diversification

2 ช่องทางรายได้หลักสูงสุดของ Ferrari มาจาก

  • 82% ธุรกิจขายรถยนต์และส่วนประกอบ 
  • 11% ธุรกิจสปอนเซอร์และสินค้าพาณิชย์

แม้ Ferrari จะมีรายได้หลักจากการขายรถ แต่ก็พยายามมองหาธุรกิจอื่นเพื่อกระจายความเสี่ยงเรื่อยมา 

โดยพยายามเข้าไปอยู่ใน “ไลฟ์สไตล์” ของกลุ่มลูกค้าตัวเอง (โดยเพิ่มไลฟ์สไตล์ที่ตอบโจทย์ผู้หญิงมากขึ้น)

  • จับมือ Ray-Ban ผลิตแว่นกันแดดที่เหมาะกับใส่ขับรถ
  • จับมือ Puma ผลิตรองเท้าใส่วิ่งโลโก้เฟอร์รารี่
  • จับมือดีไซเนอร์ Armani ออกคอลเลคชั่นเสิ้อผ้าแฟชั่นชั้นสูง
  • จับมือเชฟมิชลิน เปิดร้านอาหารหรู Ristorante Cavallino
  • จับมือกลุ่มทุนเปิดตัวธีมพาร์ค Ferrari World Abu Dhabi

Image Cr. bit.ly/3egTuls

A Thing Money Can’t Buy

Ferrari เป็นไม่กี่แบรนด์ในโลกที่ “มีเงินอย่างเดียวซื้อไม่ได้” แต่ต้อง…มีคุณสมบัติบางอย่างก่อน

บางรุ่น Limited Edition มีเงื่อนไขบางประการที่ต้องสอบผ่านก่อน เช่น

  • ต้องได้ “รับเชิญ” เท่านั้นถึงซื้อได้ 
  • ต้องเป็นเจ้าของ Ferrari xxx คัน ก่อนถึงจะมีสิทธิ์ซื้อ

นักขายจะทำการลิสท์ VVIP List เลยว่าลูกค้าแต่ละภูมิภาค มีใครบ้างที่มีโอกาสซื้อสูงสุด และถ้าลูกค้าซื้อ Ferrari ไปแล้วแต่ทำพฤติกรรมเสื่อมเสียที่มีผลต่อภาพลักษณ์แบรนด์ ก็มีสิทธิ์ถูกขึ้น “The Ferrari blacklist”

สิ่งที่สาธารณชนมักไม่ค่อยทราบคือ เมื่อซื้อ Ferrari มาแล้ว…ไม่สามารถขายภายใน 1 ปีแรกได้ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของสัญญาการซื้อขาย ทั้งนี้เพื่อป้องกันการขายทำกำไร เพราะ Ferrari ไม่อยากถูกปฏิบัติแบบใช้แล้วทิ้งขว้าง

แนวทางการปั้นแบรนด์เหล่านี้ของ Ferrari คงจะทำให้ม้าลำพองนี้อยู่บนยอดพีรามิดของโลกยานยนต์ไปอีกนาน ด้วยวิศวกรรมที่ก้าวหน้า สร้างความงดงามทุกเส้นทางที่แล่นไปบนท้องถนน 

เหนือสิ่งอื่นใด Ferrari เป็นแรงบันดาลใจที่ทำให้ใครหลายคนทั่วโลก เพียรพยายามต่อสู้เพื่อที่จะประสบความสำเร็จ และแสดงให้โลกเห็นด้วยการครอบครอง

.

.

ทำ “แบบประเมินอาชีพ” จาก CareerVisa เพื่อค้นหาอาชีพที่ใช่ งานที่ชอบ…จะได้มีความสุขในการทำงานทุกๆ วัน >>> https://www.careervisaassessment.com/five-shades-assessment-th/

ยังไม่รู้จะหางานอะไรดี? รีบเข้าไปที่ >>> www.careervisaassessment.com

ทำ Resume แบบมืออาชีพได้ง่ายๆ ที่ >>> https://myrightcareer.net/

อ้างอิง