ปกติแล้ว คนที่เรียนมาด้านจิตวิทยาโดยตรง เมื่อเรียนจบแล้ว มักเข้าทำงานในสถาบันวิจัยหรือสถานศึกษาชั้นนำต่อ
แต่ในอนาคต คนกลุ่มนี้จะเริ่มถ่ายเทมาสู่องค์กรธุรกิจภาคเอกชนมากขึ้น เกิดเป็น “Corporate Psychologist”
ในสหรัฐอเมริกา ตำแหน่งอาชีพนี้กำลังเป็นที่ต้องการ และมีอัตรารายได้เติบโตถึง 10% ต่อปีเลยทีเดียว
(ในเมืองไทย สัญญาณอาชีพนี้หรือที่เกี่ยวข้องกับจิตวิทยามีให้เห็นแล้ว เช่น 4-5 ปีที่ผ่านมา Content ด้านจิตวิทยาได้รับความนิยมมาโดยตลอด)
ทำไมต้องมีตำแหน่ง Corporate Psychologist นี้ในอนาคต?
โดยประวัติ ตำแหน่งนี้ไม่ได้มีอะไรใหม่ เพียงแต่จำกัดอยู่ในขอบเขตไม่กี่อุตสาหกรรม
อย่างไรก็ตาม เมื่อการมาถึงของโควิด-19 ปีที่ผ่านๆ มา ส่งผลให้คนทำงานทั่วโลกเจอกับภาวะเครียดฉับพลัน กระทบชีวิตด้านอื่น ลามไปสู่ปัญหาสุขภาพจิตเรื้อรังในหลากหลายมิติ
- พนักงานถูกปฏิบัติอย่างไร้ Empathy เพื่อให้องค์กรอยู่รอด
- ต้องทำงานหนักขึ้น แต่เงินเท่าเดิมหรือน้อยลง
เรื่องนี้เกิดขึ้นคู่ขนานกับโลกการทำงานที่ยิ่งซับซ้อน หนักและเหนื่อย มีอะไรใหม่ๆ มาไม่หยุด เช่น เดี๋ยวอนาคต(อันใกล้) Metaverse ก็จะมาแล้ว
บัดนี้ทุกคนรู้สึกแล้วว่า สุขภาพจิตส่งผลต่อสุขภาพกายและประสิทธิภาพการทำงานแบบ “แยกกันไม่ขาด”
พนักงานและองค์กรต่างๆ จึงเริ่มมองหา “Corporate Psychologist” นักจิตวิทยาประจำองค์กรที่จะมาสร้างสมดุลระหว่างสุขภาพจิต…พร้อมๆ กับประสิทธิภาพการทำงานที่ดีไปด้วยกัน
หรือก็คือ ทำให้พนักงาน Productive…ในแบบที่รักษา Happiness ไว้ได้อยู่
ซึ่งในระยะยาว มีแนวโน้มทำงานกับองค์กรต่อไป จงรักภักดี ในมุมองค์กรก็ไม่ต้องใช้งบประมาณในการหาและฝึกคนใหม่
บทบาทของ Corporate Psychologist ในมิติต่างๆ
Corporate Psychologist จะใช้หลักการทางจิตวิทยามาผสมผสานเข้ากับกลยุทธ์การทำงานได้ทุกเรื่องในบริษัท เพราะเบื้องหลัง ทุกเรื่องก็เป็นมนุษย์ที่เป็นคนลงมือทำ (แม้แต่เขียนโปรแกรม AI)
เมื่อตีโจทย์แบบนี้ หน้าที่จึงเป็นได้หลากหลายมากๆ เช่น
- ร่วมออกแบบสภาพแวดล้อมภายในออฟฟิศ
- ทำงานกับ HR เพื่อหาพนักงานที่ใช่มากขึ้น
- ทำงานกับ HR ออกแบบ Mental Well-Being ให้พนักงาน
- ทำงานกับ Marketing วิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภคเชิงจิตวิทยา
- ทำงานกับ Designer ให้สินค้าถูกจริตด้านนามธรรมและความรู้สึกผู้ใช้
- ช่วยเปลี่ยนผ่านวัฒนธรรมของ 2 องค์กรเมื่อทำ M&A
- ทำหน้าที่ Executive Coaching ให้กับผู้บริหาร
หน้าที่ของ Corporate Psychologist จึงไม่จำกัดแค่เรื่องใดเรื่องหนึ่ง แต่ประยุกต์และข้ามสายไปได้อย่างหลากหลาย
ตัวอย่างองค์กรที่เริ่มประยุกต์ใช้แล้ว
Gucci และ The North Face ออกคอลเลคชั่นร่วมกันภายในตัว Avatar ของเกม Pokémon Go นี่คือรูปแบบของ Direct-to-Avatar (D2A) ที่แบรนด์รีบกระโดดเข้าไปทดลอง
เรื่องนี้มีรากฐานความคิดทางจิตวิทยาว่า มนุษย์เป็นสัตว์สังคมที่ต้องการแสดงอัตลักษณ์ตัวเอง (Expressing one’s identity) เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ในอนาคตเราจะมีอีกตัวตนในโลกเสมือน (Avatar) ซึ่งก็มีแนวโน้มแสดงอัตลักษณ์…เพียงแต่อาจเป็นอัตลักษณ์ที่เกินจินตนาการกว่าโลกจริง
Time Warner และ Sony เป็นอีกบริษัทชั้นนำที่มี Corporate Psychologist ประจำเต็มเวลาในองค์กร โดยเฉพาะการดูแลด้าน Executive Coaching ให้กับผู้บริหารในภูมิภาคต่างๆ ที่ต้องเผชิญหน้ากับความเครียด / การบริหารทีมอันหลากหลาย / ความแตกต่างด้านวัฒนธรรม
ในอนาคต เราคงจะได้เห็น Corporate Psychologist ในองค์กรเอกชนที่ร่วมทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่กับเรา เป็นอีก “มาตรฐานใหม่” ของโลกการทำงาน
.
ทำ “แบบประเมินอาชีพ” จาก CareerVisa เพื่อค้นหาอาชีพที่ใช่ งานที่ชอบ…จะได้มีความสุขในการทำงานทุกๆ วัน >>> https://www.careervisaassessment.com/five-shades-assessment-th/
ยังไม่รู้จะหางานอะไรดี? รีบเข้าไปที่ >>> www.careervisaassessment.com
ทำ Resume แบบมืออาชีพได้ง่ายๆ ที่ >>> https://myrightcareer.net/
อ้างอิง