📰 บทความทั้งหมด

Samsung ปั้นองค์กรอย่างไร? สู่นวัตกรรมสากกะเบือยันเรือรบ

Samsung ปั้นองค์กรอย่างไร? สู่นวัตกรรมสากกะเบือยันเรือรบ

Samsung เป็นบริษัทที่ใหญ่ที่สุดในเกาหลีใต้ มีมูลค่าบริษัท 15 ล้านล้านบาท รายได้ 6.8 ล้านล้านบาท เป็นผู้นำนวัตกรรมเทคโนโลยีที่ผู้คนทั่วโลกใช้กัน และมีส่วนแบ่งตลาด Smartphone ที่ใหญ่ที่สุดในโลก จากบริษัทที่ส่งออกปลาแห้ง สู่นวัตกรรมสากกะเบือยันเรือรบ…Samsung มีวิธีปั้นองค์กรอย่างไรกันแน่? กว่าจะมาเป็น Samsung Samsung ก่อตั้งเมื่อปี 1938 โดยคุณ Lee Byung-chul เริ่มแรกเป็นบริษัทส่งออกปลาแห้งและทำธุรกิจซื้อมาขายไปขนาดย่อมเยา ก่อนจะขยายไปสู่ธุรกิจสิ่งทอ / อาหาร / ค้าปลีก / ธุรกิจประกัน  และเข้าสู่อุตสาหกรรมหนักขนาดใหญ่อย่าง การต่อเรือ / การก่อสร้าง / อาวุธทางการทหาร / และสุดท้ายประเภทธุรกิจที่ทำให้มีชื่อเสียงไปทั่วโลกอย่างธุรกิจ “อิเล็กทรอนิคส์” ในปี 1969 จนหลายทศวรรษต่อมาได้ขึ้นแท่นเป็นบริษัทที่ใหญ่ที่สุดในเกาหลีใต้และเป็นบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำที่ทั่วโลกยอมรับ Samsung มีถึงกว่า 80 ธุรกิจที่ดำเนินการอยู่ทั่วโลก เฉพาะ Samsung Electronics (แขนงบริษัทที่ใหญ่ที่สุด) แบ่งเป็น 4 Divisions ได้แก่ […]

Law of Jante: เคล็ดลับการทำงาน & ใช้ชีวิต ของชาวสแกนดิเนเวียน

Law of Jante: เคล็ดลับการทำงาน & ใช้ชีวิต ของชาวสแกนดิเนเวียน

ประเทศในแถบสแกนดิเนเวีย ล้วนเป็นประเทศที่พัฒนาแล้วทั้งสิ้น มี GDP/หัว สูงที่สุดอันดับต้นๆ ของโลก ติด Top5 ประเทศที่ผู้คนมีความสุขที่สุดในโลก ทั้งด้านความสุข ความเจริญของประเทศ หรืออุปนิสัยการทำงาน ทุกอย่างล้วนอยู่ภายใต้ปรัชญาที่ชาวสแกนดิเนเวียนแชร์ร่วมกันหมดนั่นคือ “Law of Jante”  (ปล. ประเทศในแถบสแกนดิเนเวีย หลักๆ มีอยู่ 3 ประเทศด้วยกัน ได้แก่ สวีเดน / นอร์เวย์ / เดนมาร์ก ) Law of Jante คืออะไร?  “กฎของยานเต้” เป็น Mindset ปรัชญาการดำเนินชีวิต & การทำงานที่ชาวสแกนดิเนเวียนยึดถือปฏิบัติมาช้านานแล้ว มีใจความสรุปได้ว่า…”คุณอาจไม่ได้ดี-เก่ง-เหนือไปกว่าผู้อื่น” ซึ่งเป็นรากฐานความคิดที่ส่งเสริมความเท่าเทียม ลดความเหลื่อมล้ำ การเคารพให้เกียรติซึ่งกันและกัน ความซื่อสัตย์สุจริต และถ่อมตนอย่างพินอบพิเทา…ซึ่งจะว่าไป ก็เป็นคาแรคเตอร์ของชาวสแกนดิเนเวียนเลยทีเดียว Image Cr. https://bit.ly/3f1VkYc โดยถ้าว่าตามหลักการแล้ว กฎของยานเต้มีอยู่ 10 ข้อด้วยกัน อย่าคิดว่าตัวเอง…พิเศษเลิศเลอ อย่าคิดว่าตัวเอง…เป็นคนดีศรีประเสริฐ […]

Devil’s Advocate: ตกผลึกความคิดด้วยการ “เล่นบทโหด”

Devil’s Advocate: ตกผลึกความคิดด้วยการ “เล่นบทโหด”

รอบตัวมีแต่ลูกน้องคอยเลีย เห็นดีเห็นงามทุกเรื่อง เด็กใหม่ไม่กล้าขัดใจผู้บริหารที่จมปลักกับความคิดเดิมๆ บางคนลุกขึ้นมาโต้แย้ง ก็โดนกลั่นแกล้ง ถูกกดดันให้ออก ยอมรับความจริงเถอะว่า หลายครั้งเราเรียนรู้จาก…คำวิจารณ์ มากกว่า คำชม แต่กลไกและวัฒนธรรมองค์กรบางอย่างอาจปิดกั้นไม่ให้พนักงานกล้าแสดงออกคำวิจารณ์เหล่านั้น ซึ่งทำให้ผู้บริหารมีมุมมองคับแคบแค่ไม่กี่อย่าง อยู่ในโลกทัศน์ของตัวเอง และอาจนำไปสู่การตัดสินใจที่ผิดพลาดได้ แต่ข่าวดีคือ หนึ่งในวิธีแก้ที่นิยมใช้กันในหมู่ผู้บริหารคือ “Devil’s Advocate” Devil’s Advocate ตกผลึกความคิดด้วยการเล่นบทโหด  Devil’s Advocate คือ การแต่งตั้งบุคคลหนึ่งที่เก่งด้านการใช้ตรรกะเหตุผล ซึ่งจะเป็นใครก็ได้ทั้งที่ปรึกษาส่วนตัว / เลขาฯ ส่วนตัว / นักวิเคราะห์ผู้เชี่ยวชาญ ฯลฯ  แม้คนนี้จะเห็นด้วยกับไอเดียของคุณเป็นทุนเดิม แต่เขาต้องสวมบทบาทเป็นฝ่ายตรงข้าม และพยายามทุกวิถีทางเพื่อหาเหตุผลมา “โต้แย้ง” ไอเดียความคิดของคุณในทุกมิติ!! หรือพูดง่ายๆ ให้ “เล่นบทโหด” นั่นเอง จริตการทำงานของ Devil’s Advocate จึงต้องมีความดื้อรั้น “กัดไม่ปล่อย” ถามจี้ไม่หยุด เปิดประเด็นถกเถียงอย่างต่อเนื่อง ไม่ยอมให้ไอเดียคุณผ่านไปได้ง่ายๆ…อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดจะกระทำอยู่ภายใต้หลักการเหตุผล และแน่นอน…คนที่ได้รับการแต่งตั้งจะไม่มีผลกระทบเสียหายตามมา Lindred Greer ศาสตราจารย์ด้านพฤติกรรมองค์กรจาก Stanford […]

Omotenashi: จิตวิญญาณการบริการแบบญี่ปุ่น

Omotenashi: จิตวิญญาณการบริการแบบญี่ปุ่น

กระเป๋าถูกจัดให้ “หยิบง่าย” ที่สายพานสนามบิน พนักงานยืนเรียง “โค้ง” ต้อนรับเวลาห้างเปิด ถ้วยโยเกิร์ตที่เปิดแล้วโยเกิร์ต “ไม่ติดฝา” งานบริการที่ญี่ปุ่นไม่รับ “ทิป” ความละเมียดละไมของงานบริการญี่ปุ่นแบบนี้ มีหัวใจหลักเบื้องหลังที่เรียกว่า Omotenashi (โอโมเตะนาชิ) Omotenashi คืออะไร?  Omotenashi 【おもてなし】 เป็นคำที่นิยามออกมาเป็นคำพูดสั้นๆ ได้ค่อนข้างยาก เพราะมีความเป็นนามธรรมสูง แต่โดยทั่วไป เราทำความเข้าใจ Omotenashi ได้ว่าเป็นจิตวิญญาณการให้บริการของคนญี่ปุ่น (Japanese Hospitality) เป็นการ “บริการด้วยใจ” ซึ่งมีจริตการบริการระดับที่ “ให้…โดยไม่หวังผลตอบแทน”  ผมบริการคุณดี ไม่ใช่เพราะ…คุณจะได้ “ซื้อ” สินค้าผม ผมบริการคุณดี ไม่ใช่เพราะ…ผมหวัง “ทิป” จากคุณ แต่ผมบริการคุณดี เพราะมันออกมาจากใจ…และคุณในฐานะลูกค้าสมควรได้รับการบริการที่ดี งานบริการหลายอย่างในญี่ปุ่นมี Omotenashi เป็นหัวใจหลัก และ “Omotenashi” คำนี้ยังถูกใช้เป็นคำโปรโมทหลักตอนญี่ปุ่นแข่งขันชิงการเป็น “เจ้าภาพโอลิมปิกปี 2020” จนชนะในที่สุด!! Omotenashi อยู่เบื้องหลังหลายกิจกรรมการบริการที่ไม่มุ่งหวังมูลค่าทางเศรษฐกิจ (Economic Value) และอาจไม่ได้เพิ่มผลผลิต […]

Empathy: ทักษะแห่งศตวรรษที่ 21

Empathy: ทักษะแห่งศตวรรษที่ 21

คนจนเพราะขี้เกียจ เครียดแล้วก็กินเหล้า  สอนงานไปแล้ว ทำไมไม่จำซักที!! โปรแกรมใช้งานง่าย ป่านนี้ทำไมยังไม่คล่องอีก!! คำเหล่านี้จะไม่เกิดขึ้นเลย ถ้าคนพูดมี Empathy มากกว่านี้… Empathy คือคำที่ถูก(นำกลับมา)พูดถึงเยอะมากในช่วงนี้ และจะกลายเป็นทักษะที่จำเป็นแก่ทุกเรื่องในศตวรรษที่ 21 อย่างแน่นอน!! ทำไม Empathy ถึงสำคัญในยุคนี้?  Empathy คือการรู้สึกว่าคนอื่นรู้สึกอย่างไร (I feel how you feel.) เอาตัวเองดำดิ่งลงไปว่าถ้าเราอยู่ในสถานการณ์ / บริบท / สถานะ / เงื่อนไขเดียวกับคนนั้น…เราจะรู้สึก คิด ทำอย่างไร? นี่จึงไม่ใช่เพียงจุดเริ่มต้นของความเข้าอกเข้าใจกันอย่างแท้จริง แต่จุดประกายความผูกพัน-ห่วงใย-เชื่อมโยงถึงกันและกัน  เรียกได้ว่า ท่ามกลางโลกธุรกิจที่แพ้คัดออก พนักงานถูกปฏิบัติราวกับหุ่นยนต์…Empathy นำพาเรากลับไปสู่ความเป็นมนุษย์ (Humane) อีกครั้ง และเมื่อนั้น…มันจึงส่งผลกระทบถึงทุกเรื่องในชีวิตของเรา Empathy ในเรื่องต่างๆ? เราอยู่ในยุคที่เทคโนโลยี Disrupt กันรายปี หุ่นยนต์กำลังมาแทนที่คน แต่สิ่งหนึ่งที่หุ่นยนต์ยังทำได้ไม่ดีเท่ามนุษย์(อย่างน้อยก็ในศตวรรษนี้) คือการเข้าใจ “ความรู้สึกมนุษย์” ด้วยกันเองนี่แหล่ะ เรื่องนี้ชัดเจนมากในบริบทสังคมสูงวัย (Ageing […]

Walmart ปั้นองค์กรอย่างไร? สู่ค้าปลีกที่ใหญ่ที่สุดในโลก

Walmart ปั้นองค์กรอย่างไร? สู่ค้าปลีกที่ใหญ่ที่สุดในโลก

Walmart คือร้านค้าปลีกที่มียอดขายมากที่สุดในโลก รายได้ 16.7 ล้านล้านบาท กำไร 0.44 ล้านล้านบาท มีสาขากว่า 11,500 สาขา ใน 26 ประเทศทั่วโลก พร้อมพนักงานในบริษัททั้งหมดกว่า 2.3 ล้านคน ด้วยสเกลที่ยิ่งใหญ่ขนาดนี้ Walmart มีวิธีปั้นองค์กรอย่างไร? ความฝันของ Sam Walton Walmart (เดิมชื่อว่า Wal-Mart Stores) ก่อตั้งเมื่อปี 1962 โดยคุณ Sam Walton มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เมือง Bentonville รัฐ Arkansas สหรัฐอเมริกา Walmart เป็นห้างค้าปลีกที่มีหลาย “Formats” คอยตอบโจทย์ลูกค้าทุกรูปแบบ เช่น Supercenters / Discount Stores / Neighborhood Markets / และอีกมากมาย ครอบคลุมทุกความต้องการของลูกค้า Image Cr. bit.ly/3yyNT2b […]

Self-Overestimation: คุณอาจไม่ได้เก่งอย่างที่คิด

Self-Overestimation: คุณอาจไม่ได้เก่งอย่างที่คิด

เราทำงานเก่ง ออกมาเปิดบริษัทเองก็น่าจะรุ่ง ไทยเป็นประเทศเกษตรกรรม…เราเป็นครัวของโลก!! “ผมมั่นใจว่าตัวเองขับรถดีกว่าคนอื่นทั่วไป” เรามักตกเป็นเหยื่อของอาการ Self-Overestimation การคิดว่าตัวเองเก่ง(เกินจริง) เรื่องใดเรื่องหนึ่งอยู่เสมอ จนนำไปสู่ข้อสรุปที่บิดเบือนหรือการตัดสินใจที่ผิดพลาด!! ทำไมเรามักคิดว่าตัวเองเก่ง(เกินจริง)? ตั้งแต่อดีตกาล มีกลไกหนึ่งที่ผลักดันมนุษย์ให้คิดว่าตัวเอง “ดีพอ” เพื่อออกไปลงมือทำอะไรบางอย่าง  คิดว่าเก่งพอที่จะออกไปล่าสัตว์ได้ คิดว่าเก่งพอที่จะปกป้องคนอื่นได้ คิดว่าเก่งพอที่จะจีบสาวในหมู่บ้านได้ แต่ความบานปลายของกลไกนี้นำไปสู่ Self-Overestimation จนทำให้เรารู้สึก “ยกยอ” ตัวเองเกินจริง นักจิตวิทยาจาก Cornell University ที่เชี่ยวชาญด้านนี้ให้เหตุผลว่า มนุษย์มักคิดว่าตัวเองเป็นคนฉลาดกว่าความจริง เมื่อเราคิดเช่นนั้นแล้ว ก็พลอยทำให้มองข้ามข้อบกพร่อง / ขีดจำกัด / อุปสรรคภายนอก…จนนำไปสู่การตัดสินใจที่ผิดพลาด เรื่องนี้ไม่ได้เกิดขึ้นแค่เรื่องธุรกิจการทำงาน แต่ครอบคลุมถึงชีวิตส่วนตัว / สุขภาพ / ความสัมพันธ์ ฯลฯ เราอาจไม่ได้เก่งอย่างที่คิด ผลสำรวจในหลายประเทศพบว่า ผู้ขับขี่รถยนต์ส่วนใหญ่คิดว่าตัวเองมี “ทักษะการขับขี่” ดีกว่าค่าเฉลี่ยคนทั่วไป ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง ท้องถนนคงจะเป็นสถานที่ที่ปลอดภัยมากแน่ๆ แต่สถิติกลับไม่เป็นเช่นนั้น คนอเมริกันเสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนท้องถนนถึงปีละ 37,000 คน คนอังกฤษเสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนท้องถนนถึงปีละ 27,000 คน คนไทยเสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนท้องถนนถึงปีละ […]

The Curse of knowledge: ยิ่งรู้มาก ยิ่งคุยกับคนอื่นไม่รู้เรื่อง!

The Curse of knowledge: ยิ่งรู้มาก ยิ่งคุยกับคนอื่นไม่รู้เรื่อง!

พูดอะไรไม่เห็นรู้เรื่องเลย มีแต่ศัพท์ยากๆ เรื่องแค่นี้ทำไมไม่รู้!! VS. เกิดมาก็พึ่งรู้นี่แหล่ะ!! นี่เขาอธิบายให้คนทั่วไปเข้าใจจริงๆ หรือให้ผู้เชี่ยวชาญเข้าใจกันแน่เนี่ย นี่คือสถานการณ์อันน่าเป็นห่วงของ “Curse of Knowledge” ยิ่งรู้มาก…กลับกลายเป็นยิ่งคุยกับคนอื่นไม่รู้เรื่อง!! Curse of Knowledge เรื่องแค่นี้ทำไมไม่รู้?!! Curse of Knowledge คือ ภาวะที่ผู้เชี่ยวชาญมี “ความรู้ท่วมหัว” จนทุกอย่างดูเหมือนง่ายไปหมด รู้มากเสียจนรู้สึกว่า เรื่องยากกลายเป็นง่าย…ขณะที่คนทั่วไปยังมองว่ายากอยู่!!  นำไปสู่ความล้มเหลวในการอธิบาย “สื่อสาร” กับคนทั่วไป (Laypeople) ให้เข้าใจอย่างถ่องแท้ เพราะทึกทักไปว่าเขาต้อง  ทำได้…อย่างที่เราทำ  เป็น…อย่างที่เราเป็น  คิด…แบบที่เราคิด เข้าใจ…แบบที่เราเข้าใจ “เรามองว่าง่าย…คนอื่นก็น่าจะเข้าใจได้ง่ายๆ เช่นกัน” ทั้งที่ความจริงแล้ว คนทั่วไปมองว่า “โห…ยากจัง ไม่เห็นรู้เรื่องเลย” Curse of Knowledge เกิดขึ้นได้อย่างไร? คนเรากว่าจะเข้าใจถ่องแท้เรื่องหนึ่งย่อมใช้เวลา / ความพยายาม / ทรัพยากร /  ประสบการณ์ เราต้องอ่านหนังสือหลายเล่ม / ลงเรียนหลายคอร์ส […]

Workplace Threatening: เมื่อพนักงานถูกคุกคามในที่ทำงาน!!

Workplace Threatening: เมื่อพนักงานถูกคุกคามในที่ทำงาน!!

เราต้องการแรงงานไทย ไม่ต้องการพวกกะเหรี่ยง น้อง…ฝากซีร็อกซ์ เอาไปส่ง แล้วชงกาแฟมาให้พี่ที่โต๊ะด้วย เธอเป็นผู้หญิง…จะทะเยอทะยานขึ้นเป็นผู้บริหารไปทำไม? คำพูดและการกระทำที่ริดรอนศักยภาพคนเหล่านี้ คือส่วนหนึ่งของ Workplace Threatening การคุกคามรูปแบบต่างๆ ที่เกิดขึ้นในที่ทำงานหลายแห่งทั่วโลก  แต่โลกศตวรรษที่ 21 กำลังโอบกอดสิทธิมนุษยชนและความเท่าเทียมกัน ความคิดที่ช่างล้าหลังเหล่านี้ต้องทยอยหมดไป…แล้วคุณในฐานะผู้นำองค์กรจะทำอย่างไรได้บ้าง? การคุกคามรูปแบบต่างๆ? ก่อนจะแก้ปัญหา ต้องเข้าใจปัญหาบ้างซะก่อน การคุกคามในที่ทำงานเกิดขึ้นได้หลายเรื่องมากๆ อาทิเช่น เพศ – มักเป็นผู้หญิงที่ถูกกระทำ เชื้อชาติ – มักเป็นคนกลุ่มน้อย (Minority) ที่ถูกกระทำ ความอาวุโส – มักเป็นผู้ใหญ่ทำกับเด็ก  ตำแหน่ง – มักเป็นหัวหน้าทำกับลูกน้อง  และมาพร้อมรูปแบบ “วิธีการ” คุกคามที่หลากหลาย ทั้งทางสายตา / หยอกล้อรูปร่าง / พูดโยงเรื่องเพศ / การแต๊ะอั๋ง / การสั่งงานที่ไม่เป็นธรรม ฯลฯ เราต้องระบุให้ออกก่อนว่าเป็นการคุกคามเรื่องอะไร รูปแบบไหน ใครเป็นคนกระทำ-ถูกกระทำ เมื่อรู้สภาพการณ์แล้วจึงค่อยหาทางแก้ปัญหา อย่างไรก็ตาม การคุกคามปัจจุบันมีหลายวิธีที่เข้าขั้น “ซ่อนเร้น” […]

เมื่อ “น้ำเสีย-ไล่น้ำดี” องค์กรควรรับมืออย่างไร?

เมื่อ “น้ำเสีย-ไล่น้ำดี” องค์กรควรรับมืออย่างไร?

พนักงานแย่ เป็น “ลูกรัก” ของนาย วันๆ เอาแต่นินทา บ่น ด่า จนบรรยากาศที่ทำงานเสีย น้ำเสียไม่ยอมออก สุดท้าย น้ำดีทยอยออกแทน น้ำเน่าเพียงหยดเดียว เมื่อเจือปนในน้ำดี ก็ทำให้น้ำทั้งหมดเน่าเสียได้…แม้จะปนเปื้อนเล็กน้อยแค่ไหน แต่น้ำทั้งหมดที่อยู่ในนั้นก็ไม่อาจเรียกตัวเองว่าเป็น “น้ำบริสุทธิ์” น้ำดี น้ำที่มีคุณภาพได้อีกต่อไป… บริษัทเองก็เช่นกัน “พนักงานแย่ๆ” เพียงคนเดียว (หรือหยิบมือ) อาจฉุดรั้งให้ทั้งบริษัทต้องเดินถอยหลัง เพราะแท้จริงแล้ว องค์กรก็คือ “คน” นี่เอง…ถ้ามีคนดี-คนเก่ง องค์กรก็เจริญรุ่งเรือง ผลวิจัยจาก Gallup เผยว่ากว่า 17% ของพนักงานชาวอเมริกันเข้าข่ายเป็นพวกน้ำเสีย โดยมีลักษณะไม่ให้ความร่วมมือ ไม่มีส่วนร่วม และมีแนวโน้มจุดประเด็นความแตกแยกภายในองค์กร…นี่เป็นประเด็นที่จะมองข้ามไปไม่ได้เลย พฤติกรรมของพนักงานแย่? “แย่” ในที่นี้ไม่ได้หมายถึง Performance แย่เท่านั้น แต่หมายถึง “พฤติกรรมโดยรวม” ที่ทำลายบรรยากาศในที่ทำงาน / บั่นทอดความคิดสร้างสรรค์ / ลด Productivity เพื่อนในทีม โดยอุปนิสัยของพนักงานแย่มีได้หลากหลาย ตัวอย่างเช่น นินทา – […]

Nestlé ปั้นองค์กรอย่างไร? สู่ผู้นำด้านโภชนาการของโลก

Nestlé ปั้นองค์กรอย่างไร? สู่ผู้นำด้านโภชนาการของโลก

เนสกาแฟ / เนสวีต้า / คอฟฟี่เมต / ไมโล / คิทแคท / โกโก้ครั้นช์ / นมตราหมี / คาร์เนชั่น / ซอสแม็กกี้ ฯลฯ…แบรนด์ทั้งหมดนี้ที่เข้าไปอยู่ในชีวิตประจำวันของผู้คนทั่วโลก ล้วนอยู่ภายใต้ Nestlé (มีแบรนด์ย่อยในมือทั่วโลกกว่า 2,000 แบรนด์) นี่คือบริษัท FMCG ที่มียอดขายมากที่สุดในโลก  มูลค่าบริษัท 10.4 ล้านล้านบาท รายได้ 2.7 ล้านล้านบาท ดำเนินธุรกิจกว่า 196 ประเทศ พนักงานกว่า 308,000 คน น่าสนใจไม่น้อยว่า Nestlé…มีวิธีปั้นองค์กรอย่างไร? ใส่ใจโภชนาการมาตั้งแต่ต้น Nestlé ก่อตั้งเมื่อปี 1905 ในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เกิดจากการควบรวมกันของ 2 บริษัทอย่าง Anglo-Swiss Milk Company และ Farine Lactée Henri […]

Luxury Management: บริหารแบรนด์หรู ให้ผู้คนปรารถนา~

Luxury Management: บริหารแบรนด์หรู ให้ผู้คนปรารถนา~

มีเงินอย่างเดียวซื้อไม่ได้ ต้องมี Privilege บางอย่างด้วย ถ้าคุณไม่ได้อยู่ในลิสท์ VVIP คุณหมดสิทธิ์ซื้อ ซื้อน้ำหอมตัวนี้เพราะ Made in Paris นี่คือตัวอย่างของ Luxury Management การบริหารแบรนด์หรูหราให้ผู้คนถวิลหา… หลายกลยุทธ์นั้น มีรากเหง้าใช้มาเป็นเวลาร่วม 100 ปีแล้ว แต่ก็ยังดึงดูดความโหยหาจากผู้คนได้อยู่หมัด…พวกเค้ามีวิธีบริหารกันอย่างไร? แก่นความเป็นสินค้าหรู  ก่อนจะลงลึกกลยุทธ์ เราไปทำความเข้าใจ “ความหรูหรา” กันเล็กน้อย แก่นของความหรูหราคือ ความเป็น “Exclusivity” เป็นสิ่งที่ “คนส่วนน้อย” เท่านั้นที่สามารถซื้อหาครอบครองได้ และเป็นเหตุผลหลักที่แบรนด์สามารถ “ตั้งราคาสูง” นำมาสู่ความ Expensive ราคาที่สูงกว่าสินค้าตลาดทั่วไป เมื่อสินค้าอะไรที่เริ่ม Mass สินค้านั้นจะสูญสิ้นความ Exclusivity ทันที และแบรนด์ไม่สามารถตั้งราคาสูงได้อีกต่อไป เพราะผู้บริโภคจะไม่เต็มใจจ่าย ซึ่งเมื่อเรามองไปรอบตัวยังแบรนด์หรูหรา แม้จะเป็นสินค้าที่แตกต่างกัน อุตสาหกรรมต่างกัน ลูกค้าต่างกัน…แต่สิ่งหนึ่งที่เหมือนกันหมดคือความ Exclusivity นั่นเอง แบรนด์หรูที่ละเลยเรื่องนี้ ย่อมได้รับบทเรียนชั้นดี หนึ่งในนั้นคือ Burberry ในยุค 1970s […]